เฉดสีและราคา Suzuki GSX-R150 2021

เฉดสีและราคา Suzuki GSX-R150 2021

ปลดปล่อย…ขีดจำกัดในตัวคุณ Suzuki GSX-R150 ได้รับการถ่ายทอด DNA ความเป็นเอกลักษณ์และจิตวิญญาณ ตลอดจนรูปโฉมที่มีความสปอร์ตเต็มพิกัด เพรียวบางเส้นสายที่เฉียบคมและสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมจาก GSX-R Series อย่างเต็มภาคภูมิ ปลุกความเป็นสปอร์ตในตัวของคุณ ด้วย Suzuki GSX-R150 ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีของเจ้าแห่งสนามแข่ง DNA OF GSX-R SERIES โดดเด่นด้วยลวดลายรถแข่ง MotoGP และระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ จึงทำให้มั่นใจได้ในทุกการขับขี่บนท้องถนน

เฉดสีและราคา Suzuki GSX-R150 2021

เฉดสีของ Suzuki GSX-R150 2021 มีให้เลือก 3 สีด้วยกันนะครับ นั่นคือ สีดำ-เหลือง (ฺBW5) สีดำ (YVU) และสีน้ำเงิน (YSF)

ราคา GSX-R150 87,000 บาท.

การออกแบบของ Suzuki GSX-R150

ดีไซน์อันโดดเด่นของ Suzuki GSX-R150 มาพร้อมกับไฟหน้าแนวตั้งแบบ Led ถอดแบบดีไซน์ที่นำมาจาก GSX-R ซีรีย์เพิ่มลุคความสปอร์ตอย่างเต็มที่ และให้แสงสว่างชัดเจนในยามค่ำคืนนอกจากนั้นยังใช้ไฟหรี่แบบ LED เช่นเดียวกัน ประหยัดแรงเคลื่อนไฟฟ้า ซูซูกิ GSX-R150 ได้ถูกติดตั้งชุดแผงหน้าปัดแสดงผลแบบ Full LCD ซึ่งถอดแบบมาจากรถซูซูกิบิ๊กไบค์รุ่นพี่ได้อย่างลงตัว

เพื่อเติมเต็มให้รถจักรยานยนต์ซูซูกิ GSX-R150 มีคุณสมบัติเป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตชั้นนำใสคลาสนี้ วิศวกรซูซูกิจึงได้เลือกสรรอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ ระบบกุญแจรีโมท Keyless Entry, Suzuki Easy Start System , Push Start ซึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้เติมเต็มการขับขี่ในชีวิตประจำวันให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น

สมรรถนะและขุมกำลัง Suzuki GSX-R150

ด้วยเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่สั่งสมในการผลิตซูซูกิ GSX – R1000 ซึ่งเป็นที่สุดของเจ้าแห่งสนามแข่งได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสู่ซูซูกิ  GSX-R150 ด้วยเครื่องยนแบบ DOHC วาล์ว ขนาด 150 ซีซี พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

มั่นใจด้วยระบบดิสเบรกหน้าและหลังของซูซูกิ GSX-R150 ที่มีความสปอร์เต็มพิกันด้วยดิสก์หน้าขนาดใหญ่พิเศษขนาด 290 มม. พร้อมวงล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ที่มีน้ำหนักเบาแบบ 10 ก้าน ที่มีความแข็งแรงทนทานในทุกสภาพถนนพร้อมยางแบบ Tubeless

โครงสร้างตัวถังซูซูกิ  GSX-R150 ได้ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาส่งผลให้รูปทรงซูซูกิ GSX-R150 มีความเพียวบางและขนาดกะทัดรัด น้ำหนักน้อยเพียง 131 กก.

สเปค Suzuki GSX-R150

ขนาดและน้ำหนัก


กว้าง x ยาว x สูง700 X 2,020 X 1,075 มม.น้ำหนัก131 กก.

เครื่องยนต์


ประเภทเครื่องยนต์4 จังหวะ, Twincam 4 Valve , DOHCระบบระบายความร้อนระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก62.0 X 48.8 มม.ปริมาตรกระบอกสูบ147.3 ซีซี
ระบบจุดระเบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ทรานซิสเตอร์)อัตราส่วนแรงอัด11.5: 1
ระบบเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด (Fuel injection)ระบบสตาร์ทสตาร์ทไฟฟ้า
ระบบหล่อลื่นSJCS (Suzuki Jet Cooling System)  

ระบบเกียร์


ระบบคลัทช์ ระบบเกียร์6 ระดับ

Chassis Specification


ความยาวช่วงล้อ1,300 มม.Caster / Trail25.5 c / 93.3 มม.
ระยะห่างจากพื้น160 มม.ประเภทล้อ
ความสูงเบาะนั่ง785 มม.ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วออกเทน 91 ขึ้นไป
ระบบกันสะเทือนหน้าโช๊คอัพแบบเทเลสโคปิคพร้อม COIL SPRING และ OIL DAMPEDระบบกันสะเทือนหลังโช๊คอัพแบบเดี่ยวร่วมกับสวิงอาร์ม (Link Type)
เบรกหน้าดิสก์เบรกเบรกหลังดิสก์เบรก
ขนาดยางหน้า90 / 80 – 17 M/C (Tubeless)ขนาดยางหลัง130 / 70 – 17 M/C (Tubeless)
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง11 ลิตร  

รายละเอียดสเปค Mazda 2 ราคารถยนต์ใหม่

รายละเอียดสเปค Mazda 2 ราคารถยนต์ใหม่

เตรียมตัวให้ดี All New Mazda 2 จะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทยพร้อมสเปคและราคาอย่างเป็นทางการให้ผู้ที่รอคอยได้จับจองกันถึง 2 โฉมได้แก่ Hatchback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู พร้อมเครื่องยนต์บล็อกใหม่คลีดีเซล Skyactiv-D 1.5L พร้อมสัมผัสจิตวิญญาณของงานออกแบบที่แสดงถึงพลังแห่งการเคลื่อนไหว “Kodo Design” และเทคโนโลยีพิเศษจัดเต็มเทียบเท่ามาตรฐานยุโรปด้วย

โดยในเวลานี้จะขอแยกส่วนระหว่างโฉม Mazda 2 ซีดานและรุ่นแฮทช์แบ็ค และขอเสนอโฉมแฮทช์แบ็คเป็นคันแรกที่ได้เปิดตัวในบางประเทศแล้ว และแน่นอน เมืองไทยก็พร้อมสัมผัสแล้วเช่นกัน

รายละเอียดสเปคย่อยและอุปกรณ์มาตรฐานของ Mazda 2 Hatchback  

Mazda 2 1.5 Skyactiv-D XD 

     – ไฟหน้า Halogen
     – ที่ปัดน้ำฝนหน้าแบบหน่วงเวลา
     – ที่ปัดน้ำฝนหลัง พร้อมหัวฉีดน้ำ
     – สปอยเลอร์หลัง
     – กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน
     – กระจกกรองแสงรอบคัน
     – กุญแจรีโมทและระบบเซ็นทรัลล็อก
     – ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
     – ภายในห้องโดยสารสีดำ
     – มือจับประตูด้านในสีเงิน
     – มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบดิจิตอล
     – จอแสดงข้อมูลสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและข้อมูลการขับขี่ MID
     – พวงมาลัยปรับได้  4 ทิศทาง
     – วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์สีดำ
     – ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
     – แผงควบคุมสวิตซ์เปิดปิดกระจกไฟฟ้าลายเคฟล่าร์
     – สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
     – แผงคอนโซลหน้าตกแต่งสีดำด้านและสีเงิน
     – เบาะผ้าสีดำและสีแดง
     – หัวเกียร์และพวงมาลัยหุ้มด้วย PVC ตกแต่งลายเคฟล่าร์
     – กระจกไฟฟ้าและระบบ Jam Protection ด้านคนขับ
     – วิทยุ FM/AM พร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 1 แผ่น
     – สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
     – ช่องเชื่อมต่อ AUX/USB 1 ช่อง
     – ลำโพง 4 ตัว
     – กุญแจ Immobilizer
     – ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ
     – ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัว DSC
     – ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS
     – ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัด HLA
     – เบรกหน้าแบบดิสก์ และเบรกหลัง แบบดรัม
     – ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และกระจายแรงเบรก EBD
     – ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS
     – ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
     – ล้ออัลลอย 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15

Mazda 2 1.5 Skyactiv-D XD high (เพิ่มจากรุ่น XD)

     – กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
     – กุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
     – ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
     – วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์สีดำและสีแดง
     – แผงคอนโซลหน้าตกแต่งสีดำเงาและสีแดง
     – เบาะผ้าสีดำแต่งด้วยด้ายสีแดง
     – หัวเกียร์และพวงมาลัยหุ้มด้วย PVC ตกแต่งลายเคฟล่าร์และสีเงินวาว
     – ฐานเกียร์สีดำลายเคฟล่าร์
     – ฐานเกียร์สีดำ Piano Black
     – เบาะหลังแยกปรับและพับ 60 : 40
     – สัญญาณกันขโมย Burglar Alarm
     – เบรกหน้าแบบดิสก์ และเบรกหลัง แบบดิสก์

Mazda 2 1.5 Skyactiv-D XD high Plus+ (เพิ่มจากรุ่น XD High)

     – ไฟตัดหมอกคู่หน้า
     – กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ
     – ปลายท่อไอเสียโครเมียม
     – มือจับประตูด้านในสีเงินวาว
     – มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก
     – หน้าจอ Active Driving Display
     – วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์สีดำและสีเงินวาว
     – แผงคอนโซลหน้าตกแต่งหนังสีดำแต่งด้วยด้ายสีแดงและวัสดุสีเงินวาว
     – แผงข้างประตูหุ้มด้วยหนัง
     – เบาะหนังและผ้าสีดำแต่งด้วยด้ายคู่สีแดง
     – หัวเกียร์และพวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งลายเคฟล่าร์และสีเงินวาว
     – เบรกมือหุ้มหนัง
     – ไฟส่องสว่างห้องโดยสารตอนหน้าแยกซ้าย-ขวา
     – ไฟส่องสว่างห้องโดยสารตอนหลัง
     – หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
     – ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
     – ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth พร้อมสวิตซ์ที่พวงมาลัย
     – ระบบจดจำเสียง Voice Recognition
     – ช่องเชื่อมต่อ AUX/USB 2 ช่อง
     – ช่องใส่ SD Card สำหรับระบบนำทาง 
     – ลำโพง 6 ตัว
     – ล้ออัลลอย 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R16

ออพชั่นเสริมเฉพาะ Mazda 2 แฮทช์แบ็ค

     – เสาอากาศแบบติดหลังคา
     – แผ่นปิดห้องสัมภาระด้านท้าย

ภายนอก All New Mazda 2โฉมรถแฮทช์แบ็คขนาด B-Segment ที่ได้รูปลักษณ์จากออกแบบ Kodo Design ให้ความรู้สึกโฉบฉี่ยวทะยานได้นิ่มนวลกว่าใคร, สีตัวถังที่เผยในเวลานี้มีเพียง 2 สีเท่านั้น ก็คือแดงและน้ำเงิน แต่คาดว่าอาจมีสีให้เลือกเพิ่มอีกเช่นดำ สีเงินและขาวด้วย, กระจังหน้า 5 แฉกรูปลักษณ์ใหม่, ไฟหน้าหลอดฮาโลเจนและ LED Daylight และไฟท้าย LED, ไฟตักหมอกคู่หน้าสำหรับรุ่นท็อป และล้ออัลลอย 15-16 นิ้วตามรุ่น ส่วนลายล้อนั้นมาวัดดวงกันว่าจะได้ล้อแม็กซ์หรือล้อกระทะพร้อมฝาครอบจาก มาสด้า 2

ภายใน Mazda 2 ให้ความพิถีพิถันในการออกแบบภายในห้องโดยสารและที่นั่ง Mazda 2 เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศความพร้อมในการออกตัวให้ได้มากที่สุดจึงออกแบบให้ในส่วนทางเข้าข้างในรถที่ดูกว้างขึ้น เข้าออกได้ง่ายขึ้น, คอนโซลหน้ารถที่ออกแบบสไตล์รถสปอร์ตแต่ดูเรียบง่ายและกว้างขวาง, พื้นที่ของคนขับออกแบบให้มีความสมมาตรทุกด้านไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย หน้าปัดวัดระดับต่างๆ จอมอนิเตอร์ เป็นต้น, ช่องแอร์ด้านหน้า 3 ช่องวงกลมและ 1 ช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ระหว่างคอนโซลตรงกลาง

จอมัลติมีเดีย 7 นิ้วพร้อมระบบสั่งการบริเวณคอนโซกลางด้านข้างและพวงมาลัย ส่วนเบาะที่นั่งที่ทำรูปลักษณ์คล้ายกับรถสปอร์ด แต่ให้สัมผัสที่นั่งสบายยิ่งขึ้นทั้งผ้าและหนัง ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายนั้นสามารถพับเบาะหลังเพื่อขยายพื้นที่เก็บสัมภาระได้ กว้างพอที่จะเก็บจักรยานและสัมภาระสำหรับท่องเที่ยวนอกเมืองได้

เครื่องยนต์ Mazda 2

สำหรับเครื่องยนต์ของ All News Mazda 2 นั้นจะมีให้ทั้งเบนซินและดีเซล ขอประเดิมด้วยเครื่องยนต์ดีเซล1.5 ลิตร SKYACTIV-D Turbo เสริมด้วยเทอร์โบแปรผันเดี่ยว และหัวฉีดหัวฉีดแบบโซลีนอยด์ ให้กำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1500-2500 รอบต่อนาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีต กับแรงบิด 220 นิวตันเมตรที่ 1400-3200 รอบต่อนาทีสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6EC-AT และระบบขับเคลื่อน 2 แบบทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อควบคุมด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า

ทั้งนี้ด้วยเครื่องยนต์ Skyactiv สิธิบัตรเฉพาะจากมาสด้าที่จะช่วยควบคุมการจ่ายพลังงานและการควบคุมการปล่อยไปเสีย เช่น i-ELOOP เทคโนโลยีช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าของระบบต่าง ๆ แถมช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23 กม./ลิตร ค่าปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัม/กม. ผ่านมาตรฐานยูโร5

ระบบความปลอดภัย Mazda 2 มีระบบรักษาความปลอดภัยหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเข็มขัดนิรภัย 5 ชุดทั้งหน้าหลัง, ถุงลมนิรภัย, ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ ESC, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, โครงสร้างนิรภัยแบบพิเศษ และอาจมีเพิ่มขึ้นในวันเปิดตัวที่จะถึงนี้

ราคา Mazda 2 Hatchback ทุกรุ่นในตลาดรถ

ราคา Mazda 2 เฉพาะ Hatchback นั้นได้มีการเผยราคาอย่างเป็นทางการแล้วตามประเภทรุ่นที่กำหนด (เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D เท่านั้น)

ราคา Mazda 2 Hatchback รุ่น XD ราคา 675,000 บาท

ราคา Mazda 2 Hatchback รุ่น XD High ราคา 735,000 บาท

ราคา Mazda 2 Hatchback รุ่น XD High Plus+ ราคา 790,000 บาท

ค่ายรถยนต์ Mazda เปิดตัวรถยนต์ พร้อมเทคโนโลยีใหม่

ค่ายรถยนต์ Mazda เปิดตัวรถยนต์ พร้อมเทคโนโลยีใหม่

ค่ายรถยนต์มาสด้าประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวรถ Mazda Minorchange 2 รุ่นหลักพร้อมให้จับจองเต็มรูปแบบแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากได้มีการปล่อยภาพโฉมจำหน่ายจริงมาก่อนหน้าให้ผู้สนใจได้ชมรายละเอียดคร่าวๆ ซึ่งมีด้วยกันดังนี้

เริ่มจาก Mazda CX-5 โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่เปลี่ยนโฉมภายนอกให้เข้ากับมาสด้าโฉมใหม่ให้กลมกลืนยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าเรียงเส้นนอน ไฟหน้าที่เหมือนกับ All- New Mazda 2 กรอบไฟตัดหมอกใหม่ ส่วนภายในก็มีการออกแบบใหม่ให้ดูเรียบง่ายแต่หรูขึ้นเป็นกอง พร้อมอุปกรณ์ใหม่อย่างเบรคมือไฟฟ้า (EPB – Electric Parking Brake) ที่ติดตั้งข้างปุ่ม Commander Control ส่วนเครื่องยนต์ยังคงแบบเดิม

และ Mazda 6 ที่ออกแบบกระจังหน้า, ไฟหน้า, ไฟท้ายใหม่เช่นเดียวกัน ส่วนห้องโดยสารที่ได้เพิ่มระบบ ‘Mazda Connect’ ใหม่พร้อมระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนหน้าปัด ‘Active Driving Display’ และเบรคมือไฟฟ้าใหม่ ‘Electric Parking Brake’ ที่สั่งการด้วยการกด-ดึงปุ่มง่ายๆ ที่น่าสนใจที่สุดคือการยกระดับระบบความปลอดภัยใหม่ ได้แก่ระบบ ‘i-ACTIVSENSE’ ,ไฟหน้าแบบปรับอัตโนมัติ ‘Adaptive LED Headlights – ALH’ เจ้าแรกในรถญี่ปุ่น ระบบตรวจจับจุดบอดที่เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับรถที่เข้าแซงจากด้านข้าง, ระบบตรวจจับรถที่วิ่งผ่านด้านหลังในกรณีที่ต้องการถอยรถ เป็นต้น

เปิดตัวพร้อมกันเลยทีเดียวสำหรับรถมาสด้าโฉมไมเนอร์เชนจ์ โดยเฉพาะการปรับโฉมให้มีหน้าตาเข้าชุดเข้าทีม Mazda 3 และ All-New Mazda 2 กันเลย ทั้งนี้อยากรู้เหมือนกันว่าจะมีรถรุ่นอื่นอีกไหมที่จะปรับหน้าตาไปในทางเดียวกัน…

ในขณะที่เมืองไทยกำลังตั้งหน้าตั้งตาการมาของรถ Mazda 2 โฉมใหม่ล่าสุดกับเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกเล็ก Skyactive ในวันที่ 15 มกราคม ที่กำลังจะถึงนี้ แต่ก่อนอื่นมาชมรถแต่งที่สวยงามยิ่งขึ้นจาก Mazda กันก่อนดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานแสดงรถแต่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอย่าง Tokyo Auto Salon ที่ปีนี้ค่ายมาสด้าได้ขนรถรุ่นต่างๆ มาแต่งโฉมให้เป็นรถสปอร์ตพร้อมให้ชมถึงความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น Mazda CX-3 Racing Concept จากครอสโอเวอร์เรียบๆ ได้แปลงโฉมมาเป็นรถสปอร์ตแบบทิ้งภาพลักษณ์รถครอบครัวเดิมๆ ปลุกหัวใจนักซิ่งของคุณให้ตื่นขึ้น

ไม่ใช่แค่รถครอสโอเวอร์อย่างเดียวเท่านั้นที่ถูกปรับแต่งสไตล์สปอร์ต เพราะรถที่จำหน่ายปัจจุบันก็ยังถูกปรับแต่งให้สปอร์ตยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น Mazda2, Mazda6 และ Mazda CX-5 แม้จะดูเรียบๆ แต่ก็เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจนแน่นอน

และไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือการสยบข่าวลือถึงการพัฒนา Mazda MX-5 โฉมใหม่ 2016 ด้วยการจัดแสดง Mazda MX-5 ที่ได้ปรับแต่งเป็นรถแข่งพร้อมเครื่องยนต์สเปครถแข่ง ซึ่งตัวเครื่องยนต์นี้จะบรรจุลงไปใน Mazda MX-5 ที่จะจำหน่ายทั่วโลกอีกด้วยโดย Mazda จะนำรถแต่งมาจัดแสดงในงาน Tokyo Auto Salon วันที่ 9-11 มกราคม นี้

ในชุดเทคโนโลยีพิเศษจากสกายแอคทีฟของมาสด้า ที่มีทั้งเครื่องยนต์, โครงสร้างนิรภัยน้ำหนักเบาแต่ทนทาน, ช่วงล่างที่นุ่มนวลทรงตัวดีและที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือชุดเกียร์ Skyactiv-Drive ที่จะบรรจุลงใน Mazda โฉมใหม่ทุกรุ่น รวมไปถึง Mazda 2  พร้อมเปิดตัวในไทยไม่นานนี้แล้ว

ทั้งนี้มีข่าวดีที่น่าสนใจ เพราะมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศเดินสายการผลิตระบบส่งกำลังอัตโนมัติหรือระบบเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive รุ่นล่าสุดภายในโรงงานมาสด้า เพาเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (Mazda Powertrain Manufacturing Thailand) เพื่อเสริมกำลังการผลิตของรถมาสด้าโฉมใหม่ทั่วโลกให้สูงขึ้นกว่าเดิม 

ซึ่งการเปิดโรงงานการผลิตชุดเกียร์ในไทยนั้นเริ่มจากการส่งทีมวิศวกรมาศึกษาการผลิตชุดเกียร์ในโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีมาเสริมการผลิตที่ประเทศไทย เป็นการเสริมกำลังการผลิตให้รวดเร็วและมีคุณภาพทัดเทียมกับของญี่ปุ่น

ซึ่งโรงงาน Mazda เพาเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่รับหน้าที่ผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติ จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราวๆ 400,000 ลูกต่อปี หากรวมกับโรงงานโฮฟุในญี่ปุ่นแล้ว ทำให้รวมปริมาณการผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติมากเกือบ 1,540,000 ลูกต่อปี พร้อมป้อนให้แก่โรงงานหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงโรงประกอบรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ในประเทศไทยอีกด้วย

สเปคและข้อมูลราคา Mazda 2 รุ่นใหม่ในตลาดรถ

สเปคและข้อมูลราคา Mazda 2 รุ่นใหม่ในตลาดรถ

ดูราคารถยนต์ Mazda ล่าสุดได้ที่ http://th-bigbike.com/mazda-price-list/

เตรียมนับถอยหลังรอวันเปิดตัวและราคา Mazda 2 ในตลาดรถประเทศไทย ที่ในเวลานี้เหลืออีกเพียงแค่ไม่ถึงสัปดาห์ที่จะได้ชมโฉมเต็มรูปแบบ แต่ก่อนที่จะได้เจอตัวจริงๆ ในวันเปิดตัว 15 มกราคมนี้ ทาง Mazda Thai ได้ปล่อยทีเซอร์ความยาว 15 วินาที โดยมีการกล่าวถึงเตรียมสัมผัสพลังที่ยิ่งใหญ่ รถเล็กก็มีสิทธิ์แรงได้ ซึ่งคาดว่าจุดเด่นและราคา Mazda 2 จะมาจากเครื่องยนต์บล็อกเล็กเทคโนโลยีใหม่อย่าง Skyactiv-D ที่ได้รับการพัฒนามาใหม่

และไม่นานมานี้ก็ได้พบแหล่งข่าวของการเผยรายละเอียดอย่างไม่เป็นทางการของรถและราคา Mazda 2 เจเนอเรชั่นใหม่ทั้งแฮทช์แบ็ค 5 ประตูและซีดาน 4 ประตูสำหรับจำหน่ายในเมืองไทย โดยจะมี 3 รุ่นย่อยได้แก่ XD, XD High และ XD High Plus โดยทางด้านเครื่องยนต์แน่นอนก็ต้องเป็น Skyactiv-D 1.5 ลิตรพร้อมเทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 105 แรงม้าใน 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรใน 2,500 รอบต่อนาที ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และ i-ELOOP ช่วยประหยัดถึง 26.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมแมนนวลโหมด Activmatic ส่วนระบบเบรคจะมีทั้งดิสก์เบรค-ดรัมเบรค กับ ดิสก์เบรค-ดิสก์เบรคตามรุ่น และล้ออัลลอย 15-16 นิ้ว

ส่วนราคา ราคา Mazda 2 นั้นหากอ้างอิงจากขนาด B Segment รวมไปถึงสถานะรถอีโคคาร์เฟส 2 ราคาจะอยู่ที่ 600,000 บาทขึ้นไปสำหรับรุ่นมาตรฐาน จนถึง 800,000 บาทขึ้นไปสำหรับรุ่นท็อป แต่ทั้งนี้ยังคงเป็นแค่ข้อมูลที่ยังไม่เป็นทางการ อดใจรอสักนิด ทุกสิ่งจะเฉลยพร้อมกัน 15 มกราคม นี้ แน่นอน

การดีไซน์และราคา Mazda 2 โฉมใหม่ ที่คนไทยต่างเฝ้ารอคอยกันข้ามปีก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในฐานะอีโคคาร์เฟสที่สอง ชูรูปลักษณ์ใหม่กับจิตวิญญาณแห่ง Kodo Design และเทคโนโลยีรอบคันจากมาสด้า “Skyactiv” รวมไปถึงโฉมรถใหม่ 2 รูปแบบให้คุณได้เลือกทั้งซีดานและแฮทช์แบ็ค โดยได้แถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ห้องบางกอกคอนแวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเชิญแขกผู้มีเกียรติ, ผู้สื่อข่าวและผู้สนใจเข้าร่วมชมและทดลองขับกันอย่างคับคั่ง รวมถึงเปิดราคา Mazda 2 รุ่นใหม่อีกด้วย

จุดเด่นที่น่าสนใจของ Mazda 2 ทั้ง 2 แบบนั้นอย่างที่ทราบกันคือสมรรถนะเครื่องยนต์คลีนดีเซลบล็อกเล็ก Skyactiv-D  4 สูบเรียง 1500 ซีซี จ่ายน้ำมันด้วยระบบ Common Rail แรงดันสูง ให้กำลังขับเคลื่อน 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร 1,500 – 2,500 รอบ/นาที  ส่งกำลังเกียร์ Auto 6 สปีด และสามารถปรับการเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเองที่โหมด M ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะประสิทธิภาพการทำงานที่เงียบ เดินเครื่องได้เรียบเนียนไม่มีการสั่น จึงช่วยสร้างความได้เปรียบในด้านสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ต้องการทั้งความแรง, ความสุขุมและควบคุมได้ง่าย ที่สำคัญด้วยเทคโนโลยีการจ่ายน้ำมัน ระบบ i-Eloop ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23 กม./ลิตร ค่าปล่อยไอเสียต่ำกว่า 100 กรัม/กม. ผ่านมาตรฐานยูโร5

ส่วนภายในห้องโดยสาร Mazda 2 นั้นก็ได้ออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเทคโนโลยีรอบด้านทั้งจออินโฟเทนเมนต์, จอ Head Up Display ที่จะโผล่ขึ้นมาเมื่อสตาร์ทรถ, แผงมาตรวัดดีไซน์ใหม่แผงคอนโซลที่ดูโล่งเรียบแต่หรูให้ความรู้สึกถึงความพร้อมในการขับขี่ทุกเมื่อ

พูดถึงราคา Mazda 2 และข้อดีที่น่าสนใจกันแล้วก็มาดูข้อด้อยบ้าง โดยเฉพาะไฟหน้าที่ไม่ได้ใช้หลอดไฟโปรเจคเตอร์เหมือนในบางประเทศ แต่ได้หลอดฮาโลเจนมาแทนแต่ถ้ากระแสตอบรับดีก็อาจมีของตกแต่งมาเสริมเองได้  

ทางด้านราคา Mazda 2 นั้นได้ประกาศมาอย่างเป็นทางการแล้วทั้งสองแบบ แต่ประกาศเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น ที่สำคัญ ราคาขั้นต่ำอาจสูงเล็กน้อยแต่ราคารุ่นท็อปที่ไม่เฉียดหลักก็ถือได้ว่าโล่งใจทีเดียว มาดูรายละเอียดของราคากัน

ราคา Mazda 2 ตัวถังแบบ Sedan 4 ประตู

ราคา Mazda 2 รุ่น 1.5 Skyactiv-D XD 675,000 บาท 
ราคา Mazda 2 รุ่น 1.5 Skyactiv-D XD High 735,000 บาท
ราคา Mazda 2 รุ่น 1.5 Skyactiv-D XD High Plus+ 790,000 บาท

ราคา Mazda 2 รุ่นตัวถังแบบ Hatchback Sport 5 ประตู

ราคา Mazda 2 รุ่น 1.5 Skyactiv-D XD 675,000 บาท
ราคา Mazda 2 รุ่น1.5 Skyactiv-D XD High 735,000 บาท
ราคา Mazda 2 รุ่น 1.5 Skyactiv-D XD High Plus+ 790,000 บาท

ส่วนสีรถ Mazda 2 นั้นจะมีรายละเอียดดังนี้

– สีแดง Soul Red (เพิ่ม10,000 บาท)
– สีขาวมุก Snow Flake White Pearl (เพิ่ม 7,000 บาท)
– สีน้ำตาล Titanium Flash
– สีฟ้า Dynamic Blue
– สีเงิน Aluminum Metalic
– สีดำ Black Mica
– สีขาว Arctic White
– สีเทา Metropolitan

ข้อมูลและราคา BMW X1 ครอสโอเวอร์คอมแพ็คคาร์

ข้อมูลและราคา BMW X1 ครอสโอเวอร์คอมแพ็คคาร์

หลังจากที่ BMW ได้เผยโฉมภาพร่างของ BMW X1 รถครอสโอเวอร์คอมแพ็คคาร์แบบยกสูงสำหรับใช้งานทุกสภาพถนนในชื่อว่า BMW X1 และในเวลานี้ได้เผยโฉมตัวจริงของรถครอสโอเวอร์คอมแพ็คคาร์ตัวจริงทั้งภายนอกและภายในที่เรียกได้ว่าน่าจัดมาจำหน่ายในไทยอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับรายละเอียดของตัวรถนั้น BMW X1 ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบให้ดุดันยิ่งขึ้น โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์และหลอด LED Daylight ไฟตัดหมอกด้านล่าง ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ชุดแต่งภายนอกที่รองรับสำหรับการเดินทางนอกเมืองไกลๆ เช่นเพิ่มโป่งล้อใหม่ ราวแร๊คบนหลังคา สปอยเลอร์หลัง วัสดุยางกันประตูด้านนอก แผงดิฟฟิวเซอร์ท้ายรถ ฝาถังน้ำมันสีโลหะ สเกิร์ตรอบคันและล้ออัลลอย 16 นิ้ว

BMW X1 2021 ราคา

ราคา BMW X1 sDrive18d xLine ราคา 2,359,000.

ราคา BMW X1 sDrive20d M Sport ราคา 2,559,000.

**ราคา BMW X1 2021 ที่ปรากฎอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นโชว์รูมผู้จัดจำหน่าย โปรดสอบถามรายละเอียดที่โชว์รูมผู้จำหน่ายใกล้บ้านท่าน

** ราคาขายรวมกับ BSI STANDARD แพคเกจ การบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ด้านภายในที่อาจไม่ได้หรูหราแต่เน้นความสปอร์ตเร้าใจสำหรับวัยรุ่นเป็นหลัก โดย BMW X1 มีทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, แผงมาตรวัดพร้อมจอแสดงผลข้อมูลรถ, ระบบเครื่องเสียงแบบอนาล็อก กับลำโพง 8 จุด ระบบปรับอากาศที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ รวมไปถึงสีภายในห้องและเบาะนั่งนั้นจะเน้นสีเจ็บๆ โดนใจผู้ที่ไม่ยึดติดความหรูหรา ทั้งส้ม-ดำ และคราม-ดำ อ้อ ระบบเดินเครื่องนั้นใช้ระบบ  Keyless entry และ Push Start

ด้านเครื่องยนต์ยังไม่มีการเผยสมรรถนะ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรพ่วงด้วยระบบเทอร์โบ และจากภาพเผยถึงระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนกำหนดเปิดตัว BMW X1 อย่างเป็นทางการนั้นจะมีขึ้นเร็วๆ นี้

รถอเนกประสงค์ ระดับแนวหน้าของค่ายรถยนต์ BMW ที่มีประวัติอันยาวนานพร้อมกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม และดูเหมือนว่าในประเทศไทยที่ได้เคยสัมผัส BMW X1 มาก่อนจะได้กลับมาให้หายคิดถึงกันแล้ว และอาจได้ใช้สเปคเกาหลีแทนสเปคอเมริกาด้วย (เปลี่ยนแค่ตำแหน่งพวงมาลัยจากซ้ายไปขวาเท่านั้น)

ด้านข้อมูล BMW X1 ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานที่ประเทศเกาหลีเป็นรถซีดานขนาดกลางโดยได้ยกระดับให้มีความสปอร์ตมากขึ้น โดยใช้เส้นสายจากความโดดเด่น ที่ให้ความสปอร์ตจากหน้าจรดหลังและออกแบบให้รองรับการรีดอากาศตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้ดี

ภายในห้องโดยสารของ BMW X1 ที่ได้ออกแบบให้มีความสปอร์ต นั่งสบายและเสริมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมาย ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มความล้ำสมัยเทียบเท่ากับรถจากยุโรป รวมไปถึงในแต่ละรุ่นย่อยนั้นก็ได้ออกแบบห้องโดยสารที่หลากหลายตามต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งห้องโดยสารลายไม้ที่หรูหราหรือเบาะหนังสีดำเย็บด้ายสีส้มดึงความสปอร์ตในตัวคุณ

ด้านระบบขับเคลื่อนก็มีให้เลือกในแต่ละรุ่น อาทิ BMW X1 เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 180 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดถึง 13.4 กม./ลิตร นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์ U2 Turbo Diesel ขนาด 1.7 ลิตร 141 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตัน-เมตร บริโภคเชื้อเพลิงที่น้อยเพียง 16.8กม./ลิตร เป็นต้น และเสริมด้วยระบบเกียร์คลัทช์คู่ DCT 7 สปีด รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย ส่วนระบบความปลอดภัยก็จัดระบบใหม่ล้ำสมัยมากมาย

งานนี้ก็รอดูว่า BMW X1 จะเข้ามาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ หากมีอะไรคืบหน้า ทางทีมงาน   จะมานำเสนอให้ทราบกันในโอกาสต่อไป

BMW ประเทศไทย จัดแคมเปญสุดพิเศษพร้อมให้ผู้ร่วมงาน ได้จับจองสุดยอดยนตกรรมจากเกาหลีใต้ BMW X1 Sport Festival ที่ให้ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัส ทดลองขับและจับจองพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ดังนี้

  • ดอกเบี้ย0% ผ่อนนาน 48 เดือน*
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1**
  • ฟรี iPhone 6 Plus 64 GB***

              BMW X1 Festival จะจัดให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสในวันและสถานที่ดังนี้

  • 19-24 มิ.ย. ที่เซ็นทรัล พระราม9
  • 1-5 ก.ค. 2558 ที่งาน Fast Auto Show ไบเทค บางนา

เงื่อนไข

  • เมื่อจองและรับรถยนต์ BMW X1  ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม เท่านั้น
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • *อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือนโดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กำหนดเท่านั้น
  • **ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี โดยบริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะ ประกันภัย จำกัด เท่านั้น
  • ***iPhone 6 Plus หน่วยความจำ 64GB มูลค่า 33,400 บาท หรือสามารถเลือกเป็นส่วนลดเฉพาะสำหรับผู้ซื้อ BMW X1 เท่านั้น

BMW ค่ายรถยนต์จากเกาหลีเตรียมพัฒนาระบบแสดงผลข้อมูลบนกระจกรถหรือ Head-up Display แบบไม่ต้องใช้เครื่องฉายบนกระจกหน้าเหมือนเมื่อก่อน แต่จะสามารถแสดงผลบนกระจกรถได้ 100% 

เนื่องในงานแสดงเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผ่านมา BMW ได้ขนเทคโนโลยี ที่แสดงผลบนกระจกหน้ารถ ซึ่งจะระบุความเร็วรถ, สถานะของตัวรถต่างๆ ที่ไม่ต่างจากระบบที่มีในตัวเครื่องฉายปัจจุบัน แต่สิ่งที่เพิ่มมานั้นไม่ว่าจะเป็น การแสดงตำแหน่งเส้นทางที่ต้องการไป ระยะห่างจากที่หมาย รวมไปถึงการแจ้งเตือนวัตถุที่อยู่ตรงหน้าหรือวัตถุที่กำลังจะตัดหน้ารถได้ด้วย

โดยเจ้าระบบที่แสดงในงานนี้ได้นำ BMW X1 แบบพ่วงกับจอมอนิเตอร์ด้านหน้ามาจัดแสดงภายในงานให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองใช้งานจริง ทั้งนี้ระบบแสดงผลในจอกระจกหน้ารถของฮุนไดยังต้องพัฒนาต่อยอดอีกระดับหนึ่ง คาดว่าจะสามารถนำไปใช้งานได้จริงอีกราวๆ 2021 เป็นต้นไป หากระบบนี้ออกสู่ท้องตลาดและประสบความสำเร็จเมื่อไหร่ ระบบนำทางในจออินโฟเทนเมนต์ BMW X1 คงตกรุ่นไปเลย 

รถยนต์ BMW X3 รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรู

รถยนต์ BMW X3 รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรู

รถยนต์รุ่นใหม่ในตลาดรถที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว สำหรับรถยนต์ BMW X3 ที่สนใจในความเเรงของรถยนต์หรูขนาดใหญ่ ที่เลือกใช้พลังงานทางเลือกอย่างไฟฟ้า จะต้องสนใจกับข่าวคราวของการเปิดตัวรถดังจากค่ายเมืองเบียร์อย่าง BMW X3 ในเวอร์ชั่นล่าสุดที่ออกมาให้ยลโฉมกันเเล้ว

สำหรับ BMW X3 ในเวอร์ชั่นล่าสุดในตลาดรถ มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์เเบบ TwinPower Turbo 6 สูบ ที่ประสานระบบ TwinScroll ขับเคลื่อนแบบเทอร์โบด้วย Valvetronic พร้อม VANOS คู่ และ ระบบ Injection ที่ทำงานเที่ยงตรงสุดถึง โดยสามารถให้กำลังสูงสุดถึง 340 แรงม้า เเละมีกำลังบิดสูงสุดต่อรอบ 450 นิวตัน ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของการทำงานร่วมกันระหว่างการใช้น้ำมันและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 5.9 วินาทีเท่านั้น พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Steptronic เเละ BMW X3 มีระบบความปลอดภัยเเบบ Active safety ที่ทำงานผสานกับระบบความปลอดภัยแบบ Passive อีกด้วย

BMW X3 2021 ราคา

ราคา BMW X3 xDrive20d xLine ราคา 3,359,000.ราคา BMW X3 xDrive20d M Sport ราคา 3,659,000.

**ราคา BMW X3 2021 ที่ปรากฎอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นโชว์รูมผู้จัดจำหน่าย โปรดสอบถามรายละเอียดที่โชว์รูมผู้จำหน่ายใกล้บ้านท่าน

** ราคาขายรวมกับ BSI STANDARD แพคเกจ การบริการบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) และการรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ส่วนการออกเเบบภายนอกของ BMW X3 นั้นก็เรียกว่ามีโครงสร้างของตัวถังที่เเข็งเเกร่ง พร้อมการออกเเบบตัวบอดี้ที่สวยงามตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟหน้าเเละหลังที่เป็นเเบบพิเศษให้ความสว่างอย่างสูง ระบบไฟเบรคเเละไฟเลี้ยวเเละกระจังหน้าคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายรถดังจากเเคว้นบาวาเรียก็ทำออกมาได้อย่างสวยงาม

สำหรับภายในห้องโดยสารของ BMW X3 นั้นได้รับการออกเเบบจากหัวหน้าทีมออกแบบ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่จัดการวางตำแหน่งคอนโซลกลาง ให้โน้มเข้าหาผู้ขับ ระบบควบคุมอื่นๆ ซึ่งรวมทั้ง Comfort ฟังก์ชั่น ได้รับการติดตั้งไว้ทางซ้ายของพวงมาลัย ให้ความสะดวกสบายในการควบคุมทั้งโดยผู้ขับและผู้โดยสาร ฟังก์ชั่น Dynamic Driving สามารถควบคุมได้ด้วยมือซ้ายของผู้ขับ ทุกแผงควบคุมและจอแสดงผลได้รับการจัดวางอย่างสมบูรณ์แบบ โดยอยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็น และใช้งานได้สะดวก เพียงชำเลืองสายตาไปทางซ้าย คุณก็จะได้เห็นจอแสดงผลการควบคุมใน BMW X3 ส่วนเบาะนั่งนั้นก็เป็นหนังเเท้ที่ตัดเย็บด้วยมืออย่างประณีตที่สุด

สำหรับราคารถยนต์ BMW X3 ในเวอร์ชั่นล่าสุด นั้นเคาะราคาขายกันออกมาที่ 5,399,000 บาท เรียกว่างานนี้เพื่อนๆ คงจะได้เชยชมยานยนต์ขั้นเทพรุ่นนี้กันอย่างเเน่นอน หลังจากไม่นานมานี้ได้เคยนำเสนอเรื่องราวของความเเรงอย่าง BMW X3 ไปเเล้ว มาคราวนี้เราจะมาพบกับอีก 1 รุ่นที่น่าสนใจของค่ายดังจากเมืองเบียร์ค่ายนี้อย่าง BMW X3 ที่ร้อนเเรงไม่ต่างกันเลย

สำหรับ BMW X3 นั้นเป็นอีกหนึ่งในรถยนต์เเบบที่ทาง BMW ภูมิใจเป็นอย่างมาก โดยมันมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาดความจุถึง 3.0 ลิตรแบบ turbo engine 6 สูบ โดยมันให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 425 แรงม้า ที่ความเร็วรอบ 5,500 รอบต่อนาที ถึง 7,300 รอบต่อนที และมีเเรงบิดสูงสุดได้ถึง 550 นิวตันเมตรที่ 1,850 รอบต่อนาทีและ 5,500 รอบต่อนาที โดยมีอัตราเร่งได้ดีขึ้นโดยมีเวลาอยู่ที่ 4.1 วินาทีสำหรับอัตราจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากระบบเกียร์แบบ DCT dual clutch แบบใหม่ และระยะเวลา 4.3 วินาทีในแบบเกียร์กระปุก

การออกเเบบภายนอกของ BMW X3 นั้นก็เรียกว่ามีโครงสร้างของตัวรถที่เเข็งเเกร่ง ในส่วนของบอดี้นั้นก็เป็นเเบบ 2 ประตูสไตส์คูเป้ พร้อมระบบไฟอัจฉริยะ เเละที่โดดเด่นเกินใครก็คงเป็นเรื่องของสีที่เป็นสีดำล้วนเเบบ Black Sapphire ที่สวยงามดุดันน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนภายในห้องโดยสารของ BMW X3 นั้นก็มีขนาดที่กว้างขวางสวยงามเเนวสปอร์ตคูเป้ พร้อมเบาะนั่งหนังเเท้เเบบ 4 ที่นั่งเเนวสปอร์ตเร้าใจ เเละเเผงคอนโซลที่บรรจุเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการขับขี่อย่างครบครัน สำหรับราคา BMW X3 นั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการจาก BMW เเต่ก็เชื่อว่าคงจะมีราคาที่สุงพอสมควรเลยทีเดียวสำหรับคูเป้เเรงๆ รุ่นนี้

มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ Kawasaki Ninja ZX-6R สปอร์ตไบค์ขนาดกลาง

มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ Kawasaki Ninja ZX-6R สปอร์ตไบค์ขนาดกลาง

สปอร์ตไบค์อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในตลาดรถ Kawasaki Ninja ZX-6R บิ๊กไบค์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาได้อย่างสปอร์ตโฉบเฉี่ยว มีความดุดัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับสเปคที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งรุ่น เป็นบิ๊กไบค์ขนาดกลางที่แรงพอตัว วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Kawasaki Ninja ZX-6R สปอร์ตไบค์ขวัญใจคนไทยอีกหนึ่งรุ่น

รู้ไหมครับว่าความแรงของรถเนี่ย มันวัดกันตรงไหน เครื่องยนต์ หรือว่าออกตัวเร็วกว่า หรือการอยู่ข้างหน้าโดยนำหน้ามากกว่า ไม่มีอะไรบอกได้ชัดว่าจริงๆแล้วคืออะไร แต่เรามพร้อมที่จะแถลงไขอย่างสุดโต่งว่า มีมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไซส์กลาง อยู่ 1คัน ที่สามารถบอกคุณได้ว่า ความแรงที่แท้จริง  คืออะไร

เครื่องยนต์และความแรงของ Kawasaki Ninja ZX-6R ด้วยขนาด 636ซีซี ในอัตราเร่ง 12.9 : 1 แรงตลอดรอบบิด ฟิตด้วยหัวฉีดพลังเชื้อเพลิงแบบดิจิตอล ดีเอฟไอ KEIHIN 38มม. และระบบท่อไอเสียแบบใหม่ ที่อัดอากาศได้รวดเร็วทันใจทันที่ที่สตาร์ท และใช้โครเมี่ยมน้ำหนักเบา เทียบเท่าความแข็งแรงทนทานระดับสูง และลดแรงเสียดทานของเครื่องยนต์อย่างยอดเยี่ยม ถือว่าขุมกำลัง Kawasaki Ninja ZX-6R มันน่าสนใจมากๆเลยครับ

สเปคของคาวาซากิ นินจา แซดเอ็กซ์-6อาร์  มีลูกสูบใหม่ที่แข็งแรงแบบสุดๆและส่งมอบพลังงานได้อย่างราบรื่น ตลอดเส้นทางไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ควบคุมด้วยแรงดันไฟฟ้าอิเล็กส์ทรอนิกอย่างดี ด้านล่างมีล้อขนาดใหญ่ที่รองรับที่การหมุนอย่างต่อเนื่องและยางที่ยึดเกาะถนนได้อย่างมีสมรรถนะ โช๊คหน้าหลังที่พร้อมรองรับทุกการสปริงตัว ทั่วทั้งคัน Kawasaki Ninja ZX-6R จุน้ำมันได้ 4.5แกลลอน

สำหรับคาวาซากิ นินจา แซดเอ็กซ์-6อาร์ มีน้ำหนักอยู่ที่ 427.8ปอนด์เพียงเท่านั้น พร้อมความยาวของรถขนาด 82.1นิ้ว กว้าง 27.8นิ้ว สูงโดยรวม 43.9นิ้ว พร้อมมาตรฐานยานยนต์ เอบีเอส $ ทีบีดี/ทีบีดี พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 12เดือนจากโรงงานใหญ่ของ KAWASAKI มีดีขนาดนี้ อย่าลืมมีติดบ้านไว้ลองความแรงนะครับ

มาพูดถึงราคา Kawasaki Ninja ZX-6R  เพียง 11,699 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นครับ ในบิ๊กไบค์ระดับกลางอย่างนี้ และระบบเครื่องยนต์เจ๋งๆในราคานี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วครับ หากคุณสนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

กี่โมงกี่ยามแล้วครับ มาพร้อม KAWASAKI ระบบ ABS พร้อมรีวิวทุกอย่างให้เพื่อนๆ ชมกันครับ ขอบอกไว้ก่อนว่า ถ้าเปรียบเป็นผู้หญิงก็สวยระดับนางสาวยไทย ถ้าเปรียบเป็นผู้ชายก็หล่อและเซ็กซี่สุดๆ พร้อมหุ่นที่เท่บึกบึนล่ำกำยำทุกส่วน อยากรู้แล้วใช้มั๊ยครับ ว่ามันจะเพอร์เฟคท์อะไรปานนั้น มาดูข้อมูลกันเลยครับ

หากพูดถึงเครื่องยนต์ของบิ๊กไบค์ KAWASAKI NINJA ZX-6R ABS เครื่องยนตื 4จังหวะ ดีโอเอชซี สี่วาล์วลูกสูบแบบอินไลน์  636ซีซี ช่วงชักกระบอกสูบอยู่ที่ 67×45.1 มม. อัตราส่วนการเร่ง 12.9 ต่อ 1 ซึ่งใช้ระบบเชื้อเพลิงแบบ ดีเอฟไอ แอนด์โฟร์ 38มม. Keihin ฟินสุดๆกับชุดเกียร์ที่มีถึง 6สปีด หากคุณ นี๊ด สปีดมากๆ ก็เหมาะสมกับ นินจาตัวนี้เป็นที่สุด

ด้านระบบความปลอดภัย คาวาซากิ นินจา แซดเอ็กซ์-6อาร์ เอบีเอส มีระบบเบรคเอบีเอส ที่พร้อมช่วยคุณหยุดอย่างปลอดภัยและป้องกันการล็อคล้อที่อาจจะทำให้คุณล้ม แต่ คุณจะไม่ล้มเด็ดขาดหากคุณมานินจาคอยเป็นพาหนะให้คุณ กับการขับขี่อย่างราบรื่น น่าตื่นเต้นทุกจังหวะที่พาคุณตรงไปยังจุดหมาย Kawasaki Ninja ZX-6R มาพร้อมอิสระการเดินทางที่มีประสบการณ์อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับ คาวาซากิ นินจา แซดเอ็กซ์-6อาร์ เอบีเอส มีโช๊คหน้าแบบหัวกลับขนาด  41มม. โช๊คหลังอบบ STEPLESS ตอบสนองการกระแทกทุกจังหวะ เบรคหน้าแบบคู่ขนาด 31มม. และเบรคหลังแบบเดี่ยว ขนาด 220มม.  จุน้ำมันได้ 4.5แกลลอน น้ำหนักโดยรวม 427.8ปอนด์ มี 4สีให้เลือก อย่างจุใจ ชอบคันไหนก็รีบไปถอยกันออกมาเลยครับ

หากพูดถึงราคา KAWASAKI NINJA ZX-6R ABS บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตรุ่นนี้ มีราคาอยู่ที่ 12,699ดอลลาร์สหรัฐ ประกัน 12เดือน หากคุณชอบความเร็วแบบนี้ ก็อย่ารีรอให้เสียดายของอยู่เลยครับ และนี่ก็ถือว่ามันน่าสนใจจริงๆ เป็นสปอร์ตไบค์ที่มีความดุดันรอบคันเลยก็ว่าได้

ราคา Kawasaki Versys 1000 ทัวร์ริ่งไบค์ขาลุย

ราคา Kawasaki Versys 1000 ทัวร์ริ่งไบค์ขาลุย

บิ๊กไบค์แนวทัวร์ริ่งที่น่าสนใจ สำหรับราคา Kawasaki Versys 1000 รุ่นนี้ก็ไม่แพงเลยนะครับ อีกทั้งยังมีการออกแบบที่ดุดัน และสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ใครว่าตำรวจขับรถเท่ๆไม่ได้ ขอเถียงเลยครับ หากคุณได้พบกับคาวาซากิตัวใหม่ ที่มีรูปร่างคล้ายรถสไตล์ที่ตำรวจชอบขับกวดจับชาวบ้าน แต่คันนี้มาพร้อมความเท่อ่ะครับ เท่แบบพูดไม่ถูก ดีไซน์เหลือล้ำจริงๆ หากตำรวจไทยมีรถแบบนี้ขี่บ้าง โดยราคา Kawasaki Versys 1000 รุ่นนี้น่าสนใจ จะดีมากๆเลยครับ มาดูข้อมูลของอนาคตรถตำรวจกันดีกว่าครับ

สำหรับราคา Kawasaki Versys 1000 รุ่นนี้ มีการออกแบบและมีเครื่องยนต์ที่มีพลังงานเหลือล้น ตามรูปเลยนะครับ เท่ บอกได้คำเดียวเลยครับ มาพร้อมกระจกหน้าที่ช่วยบังลมและฝุ่นที่จะเข้าตาได้อย่างดี ดูจานดิสเบรคสิครับสวยสุดๆ ดูแล้วเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพระดับสูงจริงๆ ผู้ชายขับก็เท่ ผู้หญิงขับก็เท่ ใครขับก็เท่ทั้งนั้น จอดไว้เฉยๆยังเท่เลยครับ โดยราคา Kawasaki Versys 1000 ราคาไม่แพงคันนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์  4จังหวะอินไลน์ 1043cc เชียวนะครับ

หา่กพูดถึงเครื่องยนต์ คาวาซากิ เวอร์ซิส 1000 มีอัตราการเร่ง 10.3:1 ช่วงชักกระบอกสูบ 77X56มม. ระบบวาล์วแบบ ดีโอเอชซี 6วาล์ว และการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ ดิจิตอล 38มม. Keihin พร้อมระบายความร้อนและลดแรงเสียดทานได้อย่างดีเยี่ยม เปี่ยมความสามารถ เด็ดขาดความแรง ใน6เกียร์ เต็มที่ทุกสปีด กับ STREET SPORT คันนี้

ความแข็งแกร่งและราคา Kawasaki Versys 1000 มีเฟรมเป็นอลูมีเนียมทั้งคัน ยางหน้าและหลังมีขนาดใหญ่ ซัสเปนชั่นหน้าแบบหัวกลับ รองรับทุกอารมณ์การขับขี่ ขนาด 43มม. พร้อมระบบกันสะเทือนด้านหลัง เพิ่มความเท่ด้วยดิสก์เบรคหน้า แบบกึ่งลอยตัว 300มม. และเบรคหลังแบบซิงเกิ้ล ชนิดคาลิปเปอร์ 1ลูกสูบขนาด 250มม.

มาถึงราคา Kawasaki Versys 1000 โดยบิ๊กไบค์สุดเท่คันนี้มีค่าตัวอยู่ที่ 9599 ยูโร คิดว่าไม่แพงเท่าไหร่ แต่ว่าคุ้มค่าเกินคำบรรยาย รีบเก็บเงินซื้อตอนนี้ยังไม่สายครับ เพราะว่าบิ๊กไบค์คันนี้มันน่าสนใจจริงๆ

ปีนี้ได้ค้นพบ มอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์ที่มีประสิทธิภาพจากวาซากิ โดยราคา KAWASAKI CONCOURS 14 ABS เป็นบิ๊กไบค์อีกหนึ่งรุ่นที่ราคาค่อนข้างแพง แต่ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ประสิทธิภาพสูงได้แล้วครับ เหมาะทั้งการขับขี่ของผู้หญิงและผู้ชาย เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อคุณทุกคนจริงๆ กับหลากหลายความเจ๋งใน คาวาซากิ ที่ใส่ระบบต่างๆมาในมอเตอร์ไซค์ อย่างฟูลออพชั่น โดยราคา KAWASAKI CONCOURS 14 ABS ก็ค่อนข้างแพงนิดๆ จัดเต็มแบบสุดขั้วคุ้มเหนือราคาแบบสุดๆ

สำหรับ KAWASAKI CONCOURS 14 ABS มาพร้อมรูปทรงที่ทันสมัยโดนจัยวัยรุ่นสุดๆ แต่ก็โดนใจใครอีกหลายๆคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่หลงไหลในการออกแบบสไตล์คาวาซากิ ที่มีการผสมผสานความเท่อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่เฉียบขาด แตกต่างอย่างโดดเด่น คมกริบทุกสายตาที่มอง ไม่ว่าจะจอดอยู่เฉย หรือว่าซิ่งพร้อมความเร็ว หลายๆคนก็จับเรดาร์ความสวยงามได้ทุกที่

ความปลอดภัยใน KAWASAKI CONCOURS 14 ABS เซฟและป้องกันคุณด้วยระบบเบรคเอบีเอส ที่ออกแบบมาให้เข้ากับความแรงที่ไม่เคยปราณีใครอย่างมอเตอร์ไซค์คันนี้ มีระบบป้องกัรการล็อคล้อที่ไม่ต้องง้อสิ่งกีดขวางใหญ่ โดนใจทุกการเบรค แบบไม่ให้คุณเจ็บตัว ระบบเบรคนิ่มแบบที่คุณคาดไม่ถึง ไม่ว่าคุณจะมาด้วยความเร็วขนาดใด ระบบเบรคก็สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อีกทั้ง คาวาซากิ คอนคอร์ส 14 เอบีเอส มาพร้อมความแรง6สปีดให้คุณได้เลือกใช้ความเร็วตามสภาพถนนได้อย่างพึงพอใจ ไม่ว่าจะขึ้นที่สูง ลงที่ต่ำ คุณก็สามารถปรับเกียร์ได้อย่างพึงพอใจ ด้วยความแรงที่เต็มพิกัด ไม่มีล้าหลังใคร ในรัศมีของความแรงที่ไม่มีใครเทียบเท่า ในอัตราเร่ง 10.7 : 1 ให้คุณตะลึงในพาวเวอร์อย่างไร้ขีดจำกัด

ปิดท้ายกันที่ราคา KAWASAKI CONCOURS 14 ABS $16,199 ในประเทศอเมริกา และราคา KAWASAKI CONCOURS 14 ABS ในประเทศแคนาดา มีราคาอยู่ที่  $18,999 เลือกราคา แล้วสั่งซื้อได้เลยครับ ถือว่าน่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น

ราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 ทัวร์ริ่งเครื่องยนต์ 1,198 ซีซี

ราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 ทัวร์ริ่งเครื่องยนต์ 1,198 ซีซี

หากใครกำลังหาทัวร์ริ่งราคาแพงสักคัน สำหรับราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ เป็นตัวเลือกที่พิเศษ สำหรับคนที่พิเศษอย่างคุณอย่างแน่นอน วันนี้เราได้นำเสนอเรื่องราวของบิ๊กไบค์สายพันธุ์อิตาเลียนไปก็มากมายแล้ว มาคราวนี้อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับบิ๊กไบค์แนวทัวร์ริ่งพันธ์แรง อีกทั้งราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ ก็แพงไม่แพ้กัน ที่พกพาความแรงอย่าบอกใคร พร้อมนำคุณไปในทุกเส้นทางที่ต้องการได้อย่างอิสระไร้ขอบเขตเลยทีเดียว

ส่วนเฟรมของ  ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ ใช้เฟรมแบบ Tubular steel Trellis frame โดยช่วงล่างด้านหน้ายังเป็นแบบ Marzocchi 50mm ซึ่งมาพร้อมกับหน้าปัดแสดงมาตรวัดค่าต่างๆ แบบ LCD พร้อมโคมไฟคู่หน้าและกระบังกันลมแบบเคลือบฟิลม์กันแดด พร้อมระบบเลื่อนแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีที่กันกระแทกตรงแฮนด์บิดที่ติดตั้งไฟเลี้ยวแนวยาวไว้ด้วย ส่วนบอดี้ทำจากวัสดุอย่าคาร์บอนไฟเบอร์และโชว์เครื่องยนต์เพิ่มความดุดัน และนี่จึงไม่น่าแปลกใจที่ราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ คันนี้จะมีราคาเกือบล้านเลยนะครับ สำหรับคนไทยแล้วใครได้ครอบครองถือว่าทำให้คุณดูดีเป็นอย่างยิ่ง

รวมถึงราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ มาพร้อมกับวัสดุชั้นดีในการออกแบบที่คงทน ส่วนเบาะหนังนั้นเป็นหนังแท้แบบ 2 ชิ้น แยกจากกันและต่างระดับ พร้อมด้วยกล่องใส่สัมภาระถึง 3 ใบ โดยติดตั้งที่สองข้างของตัวถังและอยู่ที่ท้ายรถอีก 1 ใบ ให้คุณได้ขนของไปท่องเที่ยวกันอย่างสบายใจไร้กังวลเลยทีเดียว

สำหรับราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ นั้นถือเป็นบิ๊กไบค์แนว ทัวร์ริ่ง อีกรุ่นของดูคาติที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นมัลติสตราด้า เวอร์ชั่นใหม่ โดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ด้วยเครื่องยนต์ที่มีสูบแบบ L-Twin โดยมี 4 วาล์วต่อสูบ แบบ Desmodromic ผสมผสานการทำงานกับ Dual Spark โดยมีการระบายความร้อนด้วยของเหลว โดยมีอัตราการอัดอยู่ที่ 11.5 : 1 ส่วนระบบเชื้อเพลิงยังคงไว้วางใจในระบบของ Mitsubishi electronic fuel injection system ส่วนระบบไอเสียเป็นแบบ 2 ท่อทำจากวัสดุอลูมิเนียม มีตัวกรองไอเสียด้วย และที่สำคัญให้พลังถึง 150 แรงม้า เรียกว่างานนี้แรงถึงใจกันเลย

ในส่วนของระบบเกียร์ ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ นั้นมาแบบ 6 สปีด โดยมีอัตราการทดเกียร์ตามลำดับอยู่ที่ 1=37/15 2=30/17 3=27/20 4=24/22 5=23/24 6=22/25 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์แบบเปียกมัลติเพิล ไลต์แอคชั่น ส่วนระบบเบรกนั้นเป็นแบบ ABS โดยล้อหน้าทำงานแบบ semi-floating discs และในส่วนขอล้อหลังนั้นทำงานแบบ 245mm disc, 2-piston caliper เรียกว่าเบรกได้อย่างใจสั่งกันเลยทีเดียว

สำหรับราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ นั้นอยู่ที่ 21,995 ดอลล่าห์สหรัฐ ถือเป็นราคาที่แรงเอาการอยู่ แต่หากเทียบกัลป์สิ่งที่เพื่อนๆ จะได้ครอบครองเป็นบิ๊กไบค์ทัวร์ริ่งเทพๆ ซักคันแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี และนี่จึงทำให้ราคา ดูคาติ มัลติสตราด้า 1200 เอส กาลันทูลีดซิโม่ มันค่อนข้างจะแพง แต่โดยรวมแล้วมันก็ดูคุ้มค่ากับสิ่งที่คุณเสียไปอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ ความคงทน ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

แม้ว่า BMW เผยที่จะยุติการพัฒนารถยนต์ MINI ขนาดเล็ก 3 ประตูเพื่อยกระดับการใช้งานได้ครอบคลุมทั้งส่วนตัวและครอบครัวมากขึ้น แต่ก็มีข่าวคราวของการพัฒนา MINI รุ่นใหม่ที่จะมีตัวถังขนาดเล็กอีกครั้ง โดยเป็นรถที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง BMW และ Toyota ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ว่านี้มีชื่อเผยชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า MINI Minor 

โดยข้อมูลจากสื่อต่างประเทศได้เผยรายละเอียดของข้อมูลที่มีความเป็นไปได้ว่า รถยนต์ MINI Minor นั้นจะมีขนาดตัวถังที่ยาวเพียง 3,450 มิลลิเมตรเท่ากับรถยนต์ Smart Forfour รุ่นใหม่ แต่ความยาวตัวถังขนาดนั้นก็มีความเป็นได้ว่าจะพัฒนาแฮทช์แบ็ค 5 ประตูได้อยู่บ้าง แต่ก็มีข้อมูลเผยว่าอาจทำเพียง 3 ประตู เพื่อความลงตัวของสัดส่วน แถมตัวถังนั้นจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มของตัวมันเอง หรืออาจพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ MINI Rocket Concept Car เรียกได้ว่าออกแบบใหม่ทุกสัดส่วน นอกจากนี้อาจรองรับระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าด้วย

ทั้งนี้ยังมีการเผยชื่อสำหรับจำหน่ายในโตโยต้าว่าจะเป็นชื่อ Toyota Starlet ซึ่งเป็นชื่อรถเล็กในยุคแรกๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Toyota Yaris ที่ทุกคนคุ้นเคยนั่นเอง และกำหนดการเปิดตัวนั้นได้ระบุว่าอาจได้เผยโฉมในปี 2018 หรือช้าสุดก็ภายในปี 2019 นี้

มินิ ประเทศไทย ร่วมกับผู้จำหน่ายรถยนต์ MINI อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แฟนๆ มินิได้สัมผัสยนตกรรมระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทั้งรูปลักษณ์และความคล่องตัวอย่างใกล้ชิดที่งาน MINI NATIONAL ROAD SHOW ที่ผู้ร่วมงานได้สัมผัสมินิรุ่นใหม่ใอย่างใกล้ชิด อาทิ MINI Clubman โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นแรกในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพคระดับพรีเมี่ยม, MINI John Cooper Works (MINI JCW) โฉมใหม่ และมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ พร้อมร่วมทดสอบการขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์มินิและข้อเสนอสุดพิเศษ ตลอดเดือนพฤษภาคม

ในเวลานี้ MINI NATIONAL ROAD SHOW ได้เดินทางจัดแสดงรถใหม่ให้แฟนๆ ชาวระยองได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่เซ็นทรัล พลาซ่า ระยอง โดยได้จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนภูมิภาคอื่นประกอบไปด้วย วันที่ 12 – 15 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี และวันที่ 26 – 29 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฏร์ธานี 

ดูข้อมูลยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้ที่ http://th-bigbike.com/