Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

แม้ว่า BMW เผยที่จะยุติการพัฒนารถยนต์ MINI ขนาดเล็ก 3 ประตูเพื่อยกระดับการใช้งานได้ครอบคลุมทั้งส่วนตัวและครอบครัวมากขึ้น แต่ก็มีข่าวคราวของการพัฒนา MINI รุ่นใหม่ที่จะมีตัวถังขนาดเล็กอีกครั้ง โดยเป็นรถที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง BMW และ Toyota ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ว่านี้มีชื่อเผยชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า MINI Minor 

โดยข้อมูลจากสื่อต่างประเทศได้เผยรายละเอียดของข้อมูลที่มีความเป็นไปได้ว่า รถยนต์ MINI Minor นั้นจะมีขนาดตัวถังที่ยาวเพียง 3,450 มิลลิเมตรเท่ากับรถยนต์ Smart Forfour รุ่นใหม่ แต่ความยาวตัวถังขนาดนั้นก็มีความเป็นได้ว่าจะพัฒนาแฮทช์แบ็ค 5 ประตูได้อยู่บ้าง แต่ก็มีข้อมูลเผยว่าอาจทำเพียง 3 ประตู เพื่อความลงตัวของสัดส่วน แถมตัวถังนั้นจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มของตัวมันเอง หรืออาจพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ MINI Rocket Concept Car เรียกได้ว่าออกแบบใหม่ทุกสัดส่วน นอกจากนี้อาจรองรับระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าด้วย

ทั้งนี้ยังมีการเผยชื่อสำหรับจำหน่ายในโตโยต้าว่าจะเป็นชื่อ Toyota Starlet ซึ่งเป็นชื่อรถเล็กในยุคแรกๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Toyota Yaris ที่ทุกคนคุ้นเคยนั่นเอง และกำหนดการเปิดตัวนั้นได้ระบุว่าอาจได้เผยโฉมในปี 2018 หรือช้าสุดก็ภายในปี 2019 นี้

มินิ ประเทศไทย ร่วมกับผู้จำหน่ายรถยนต์ MINI อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แฟนๆ มินิได้สัมผัสยนตกรรมระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทั้งรูปลักษณ์และความคล่องตัวอย่างใกล้ชิดที่งาน MINI NATIONAL ROAD SHOW ที่ผู้ร่วมงานได้สัมผัสมินิรุ่นใหม่ใอย่างใกล้ชิด อาทิ MINI Clubman โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นแรกในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพคระดับพรีเมี่ยม, MINI John Cooper Works (MINI JCW) โฉมใหม่ และมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ พร้อมร่วมทดสอบการขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์มินิและข้อเสนอสุดพิเศษ ตลอดเดือนพฤษภาคม

ในเวลานี้ MINI NATIONAL ROAD SHOW ได้เดินทางจัดแสดงรถใหม่ให้แฟนๆ ชาวระยองได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่เซ็นทรัล พลาซ่า ระยอง โดยได้จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนภูมิภาคอื่นประกอบไปด้วย วันที่ 12 – 15 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี และวันที่ 26 – 29 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฏร์ธานี 

ดูข้อมูลยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้ที่ http://th-bigbike.com/

ค่ายรถยนต์ Hyundai เผยโฉม New York Concept รถซีดานสปอร์ตล้ำที่ปูทางสู่ G70

ค่ายรถยนต์ Hyundai  เผยโฉม New York Concept รถซีดานสปอร์ตล้ำที่ปูทางสู่ G70

ค่ายรถยนต์ Hyundai ประกาศผลักดันแบรนด์รถยนต์หรู Genesis อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างฐานให้แน่นยิ่งขึ้นโดยล่าสุดได้เผยโฉมรถต้นแบบรุ่นใหม่กลางงานนิวยอร์ก ออโต้โชว์ 2016 ด้วยรถชื่อเดียวกับงาน Genesis New York Concept ที่สื่อหลายเจ้าต่างเผยเป็นเสียงเดียวว่านี่คือรถต้นแบบที่จะมาท้าชน BMW Series 3 โดยเฉพาะ ทำเอาสาวกค่ายฮุนไดต่างให้ความสนใจและเฝ้าตั้งตารอ

สำหรับรถยนต์ Genesis New York Concept ว่าที่รถซีดานต้นแบบ ด้วยการออกแบบในแนวทาง Athletic Elegance ที่ดึงความหรูหราออกมาได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการออกแบบที่ดูสมส่วนกำลังดี ด้วยแรงบันดาลใจที่ผสมผสานกระบวนการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและความปราดเปรียวที่แสดงถึงความเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่มอบทั้งความหรูหรา, ความสปอร์ตเข้มข้น และความโดดเด่น

รูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์ Genesis New York Concept เป็นรถซีดานที่ออกแบบท้ายให้ลาดเหมือนคูเป้ มีสัดส่วนหน้ารถที่ยาวแต่ได้ออกแบบให้มีระยะฐานล้อที่กว้าง, กระจังหน้าที่มีความปราดเปรียวแต่คุงเอกลักษณ์งานออกแบบของฮุนได-เจเนซิส, ไฟหน้า LED ที่ออกแบบการวางตำแหน่งคล้ายเม็ด Pixel จนมีประกายที่สวยงาม, ช่องระบายอากาศล้อหน้ามีการตกแต่งลวงลายรังผึ้งด้วย

การออกแบบภายในห้องโดยสารจองรถยนต์ใหม่รุ่นนี้ ที่แสดงถึงความหรูหราและล้ำสมัยผ่านทางเส้นสายของแผงคอนโซล, ช่องแอร์ และเบาะนั่ง โดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดแบบอนาล็อกที่เชื่อมต่อกับหน้าจอสีขนาด 21 นิ้วลอยที่ลอยขึ้นเหนือแผงคอนโซลที่พัฒนาให้รองรับการออกคำสั่งด้วยท่าทาง 3 มิติ โดยเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้อย่าง LG

ส่วนข้อมูลของขุมพลังขับเคลื่อนนั้นได้ระบุว่าจะบรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรทั้งแบบธรรมดาและไฮบริด โดยเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นจะให้สมรรถนะสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิด 353 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถือว่าเป้นรถยนต์ที่มีความแรงอยู่พอตัวเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นอีกรุ่นในตลาดรถที่น่าสนใจ

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า Genesis New York Concept จะถูกพัฒนาเป็น G70 ในอนาคต ตามแผนกำหนดการณ์ของทางฮุนได-เจเนซิสที่ได้วางเอาไว้ก่อนหน้านั้น ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าในตลาดรถประเทศไทยจะนำรถยนต์รุ่นนี้มาขายหรือไม่

ที่มา https://my.dek-d.com/0010pond/blog/

รถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept ยนตกรรมขนาดเล็กจากอนาคต

BMW Group ยังไม่ได้เปิดราคารถยนต์ออกมา แต่ว่าได้เดินหน้าโครงการ Vision Next 100 Year เผยโฉม 2 ยนตกรรมต้นแบบรุ่นใหม่ล่าสุด ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์นวัตกรรมจากอนาคต โดยได้เผยโฉมทั้ง Rolls-Royce Vision Next 100 Concept กับรถที่จะนำเสนอในวันนี้คือรถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept รถยนต์ที่มอบความนุกและการแบ่งปันร่วมกัน

รถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept มาพร้อมกับสโลแกนใหม่ “Every MINI is my MINI” ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการใช้งานรถที่แบ่งปันกัน (Car-Sharing) ในยุคอนาคตระหว่างลูกค้ากับผู้ใช้งาน มากกว่าที่จะเป็นการครอบครองเพียงคนเดียว นอกจากนี้ทั้งรูปลักษณ์และอ็อพชั่นสุดล้ำ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่รักความทันสมัย, การขับขี่รถยนต์ให้ขับขับสนุก และแสดงตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกรถยนต์ที่ได้ผสมผสานระหว่างการดีไซน์ตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mini และความทันสมัยที่สามารถแสดงผ่านกระจกด้านล่างที่มาพร้อมกับไฟหน้า 2 วง, การแสดงผลลายกราฟฟิคดิจิตอลแบบเคลื่อนไหวผ่านตัวถังรถและหลังคาที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ตามผู้ขับขี่, ไฟท้ายแถบยาวสไตล์สปอร์ต, ล้ออัลลอยที่เสริมหลอดไฟ, ประตูบานสไลด์ รวมไปถึงไฟส่องพื้นพร้อมข้อความและภาพเคลื่อนไหวทั้งด้านหน้ารถและพื้นด้านข้างประตู

เมื่อเปิดประตูก็จะพบกับภายในห้องโดยสารรถยนต์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของการตกแต่งพวงมาลัยกับเบาะนั่งเรียบๆ ความกว้างขวางที่มากขึ้นเนื่องจากตัดชุดเกียร์และเพลากลางจนสามารถอออกแบบเบาะนั่งให้รองรับผู้โดยสารสูงสุด 6 คน และที่เก๋ยิ่งกว่าก็คือระบบย้ายตำแหน่งพวงมาลัยกับแป้นเหยียบเพื่อรองรับสภาพถนนแบบขับเลนขวากับขับเลนซ้ายได้เพื่อรองรับการขับขี่ข้ามประเทศด้วย

ทาง Mini ภูมิใจนำเสนอระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ “Cooperizer” ที่เปรียบเสมือนเป็นระบบควบคุมรถ, สิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง ประกอบไปด้วยแผงวงกลมทั้ง 4 แผ่นที่วางซ้อนกันซึ่งอ้างอิงจากระบบอินโฟเทนเมนต์อันเป็นเอกลักษณ์จากมินิ พร้อมแกนหมุนเพื่อปรับตำแหน่งของแผ่นวงกลมสำหรับการออกคำสั่งต่างๆ ซึ่งจะแสดงผลผ่านจอแสดงข้อมูลแถบยาวที่อยู่ด้านใน และปุ่มเดินระบบ Inspire Me

BMW Group ได้เผยโฉมทั้ง BMW Vision Next 100 Concept, Mini Vision Next 100 Concept, Rolls-Royce Vision Next 100 Concept  แล้ว ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่ BMW Motorrad ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะเผยโฉมในเร็วๆ นี้ ส่วนจะเป็นแบบใด มีนวัตกรรมอะไรเจ๋งๆ ก็รอชมกันได้เลย ว่าราคารถยนต์ใหม่นี้จะมีราคาอยู่เท่าใด

ตรวจสอบราคารถยนต์ใหม่ได้ที่ http://th-bigbike.com/category/%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c/

ค่ายรถยนต์ Mini ฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรด์เจเนอเรชั่นใหม่ในเครือของ BMW

ค่ายรถยนต์ Mini ฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรด์เจเนอเรชั่นใหม่ในเครือของ BMW

แม้ว่า Mini จะเป็นค่ายรถยนต์จากอังกฤษที่มีอายุยืนยาวเกินครึ่งศตวรรษ แต่ได้รับการก้าเข้าสู่เจเนอเรชั่นใหม่มาตั้งแต่ 2001 ที่ผ่านมาหลังจากที่ BMW ได้เข้าครองครองแบรนด์มินิตั้งแต่ปี 1994 พร้อมยกระดับการทำตลาดรถไซส์เล็กที่เปี่ยมไปด้วยความพรีเมี่ยมและความล้ำสมัยยิ่งขึ้น

สำหรับรถยนต์ Mini Cooper ได้เผยโฉมครั้งแรกในวันที่ 26 เมษายน ปีค.ศ. 2001 ซึ่งมาในรูปแบบของรุ่น Hatch 3 ประตูตัวถังสีแดง Chili Red พร้อมกับการตกแต่งด้วยสีขาวทั้งหลังคา, ฝาครอบกระจกมองข้างและแถบบนฝากระโปรงตัวรถ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา รถยนต์ Mini รุ่นนี้ สามารถทำยอดขายเกิน 2.5 ล้านคัน ในมากกว่า 110 ประเทศทั่วโลก

และในเวลานี้ ทางค่ายรถยนต์ มินิก็ได้ประกาศเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรตินำ Mini Hatch ที่ได้กล่าวข้างต้นร่วมถ่ายรูปร่วมกับบุคลากรในโรงงานมินิที่ Oxford เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ของทีมผู้พัฒนาและผลิตยานยนต์ แบรนด์มินิเจเนอเรชั่นใหม่

“ความท้าทายครั้งใหญ่ของบริษัทเราคือการผลิตรถทั้ง 1,00 คัน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่ซ้ำใครในแต่ละวัน ทางผู้บริหารต้องขอขอบคุณพนักงานที่ร่วมกันรังสรรค์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมด้วยความรักและทักษะในการผลิต” Mr. Frank Bachmann ผู้จัดการโรงงานมินิใน Oxford กล่าวแสดงความยินดีในครั้งนี้

ทว่า เป้าหมายการยกระดับครั้งต่อไปของแบรนด์ BMW และ Mini นั่นคือการมอบความสะดวกสบายสำหรับการโดยสาร ด้วยการผลิตตัวรถที่ใหญ่ขึ้น อัดแน่นด้วยอ็อพชั่นและเทคโนโลยี และมีข่าวลือว่าอาจพัฒนาเป็นรูปแบบตัวถังคอมแพ็คซีดานอีกด้วย 

 BMW AG และ MINI เตรียมปรับปรุงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ MINI ให้จำหน่ายเฉพาะรุ่นหลัก พร้อมกับปรับโฉมโลโก้ใหม่ที่เน้นความเรียบง่ายเหมือนแบรนด์ดังๆ มากขึ้น เพื่อการดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการสัมผัสความรถยนต์อเนกประสงค์บนความเรียบง่าย

เริ่มจากการปรับโฉมของ Logo ใหม่ที่ได้นำปรัชญาการออกแบบภาพกราฟิกยุคใหม่ Flat Design ที่เน้นความเรียบง่ายในทุกรายละเอียด แม้แวบแรกจะดูไม่แตกต่างมากนัก แต่หากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าเส้นสายต่างๆ จะเรียวเล็กลง เน้นสีน้อยไม่เน้นแสงเงา ตัดเส้นด้านในของวงกลมออกและลดความโค้งของปลายปีก โดยโลโก้ใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่รถยนต์ Mini Clubman เจเนอเรชั่นใหม่เป็นต้นไป (จึงเป็นสาเหตุที่ Clubman ยังไม่เปิดจำหน่ายจริงในเวลานี้)

และอีกอย่างก็คือการปรับรุ่นรถยนต์ที่จะจำหน่ายจะเหลือเพียง 5 รุ่นเท่านั้นเพื่อให้ทุกรุ่นสามารถสร้างยอดขายและเอกลักษณ์เฉพาะได้เต็มที่ยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการยุติการผลิตและจำหน่าย Roadster และ Coupe ส่วนในอนาคตก็มีแผนจะยุติการผลิต Paceman เพิ่มด้วย นี่จึงเป็นข่าวล่าสุดของค่ายรถยนต์ MINI ซึ่งมีแผนที่จะปรับโครงสร้างครั้งใหม่ล่าสุดเพื่อใหตัวแบรนด์สามารถทำตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น

ดูรถยนต์ใหม่รุ่นอื่นๆได้ที่ http://th-bigbike.com/category/car-reviews/

Mini Clubman All4 Scrambler รถต้นแบบแปลงโฉมจาก BMW Scrambler

Mini Clubman All4 Scrambler รถต้นแบบแปลงโฉมจาก BMW Scrambler
Mini Clubman All4 Scrambler รถต้นแบบแปลงโฉมจาก BMW Scrambler
Mini Clubman All4 Scrambler รถต้นแบบแปลงโฉมจาก BMW Scrambler

ค่ายรถยนต์ Mini ขอเสนอรถต้นแบบรุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากรถมอเตอร์ไซค์สแครมเบิ้ล ให้คุณได้รับประสบการณ์แสนวิเศษจากการค้นหาสถานที่ใหม่ๆ ที่มีชื่อว่า Mini Clubman All4 Scrambler Concept โดยนำแรงบันดาลใจจาก BMW R nine T Scrambler มาออกแบบและปรับโฉมจนสามารถวางคู่กันได้อย่างลงตัว เป็นรถที่ออกแบบมาได้สวยงาม และดุดันมากเลยทีเดียว รวมถึงขุมกำลังเครื่องยนต์ ที่สามารถใช้งานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงยานยนต์ต้นแบบ แต่ก็ทำให้สาวกค่ายมินิให้เกิดดความสนใจอยู่ไม่น้อย ที่เกิดจากการนำบิ๊กไบค์แนววิบากอย่าง BMW R nine T Scrambler ทำให้มันดูกลายเป็นรถยนต์ต้นแบบที่ดูลุยๆมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ออกแบบมาใหม่ มันเลยดูกลายเป็นรถวิบาก ที่เหมาะกับการลุยอยู่พอสมควรเลยทีเดียว และนี่ก็อาจจะเป็นรถยนต์ใหม่อีกหนึ่งรุ่น เมื่อเปิดตัวมาในตลาดรถแล้ว คาดว่าจะกลายเป็นของใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย หากเปิดตัวรถยนต์ใหม่รุ่นนี้มาจริงๆ เราไปดูกันว่าราคาในตลาดรถจะเปิดตัวมาเท่าไหร่

เริ่มจากภายนอกที่ได้รับการนำเสนอด้วยสีตัวถัง Midnight Frozen Grey ที่มาจาก BMW R nine T Scrambler, เสริมประสิทธิภาพในการลุยทุกสภาพถนนด้วยการยกตัวถังให้สูงขึ้นพร้อมบรรจุล้ออัลลอย 5 ก้านสีดำหุ้มยาง Off-Road, ตกแต่งสีเงินตามจุดต่างๆ, สปอร์ตไลท์หน้ารถที่กระจังหน้า, ดีไซน์กันชนหน้าใหม่ และยังได้เสริมราวหลังคาสำหรับการบรรทุกสิ่งของขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี

ภายในได้รับการตกแต่งให้บรรยากาศสไตล์คันทรีด้วยเบาะหุ้มหนัง Nappa และ Alcantara สีน้ำตาล โดยเฉพาะเบาะนั่งคู่ได้ประทับตรา Scramble ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะภายในห้องโดยสารได้ตกแต่งด้วยหนังกลับ Alcantara สีน้ำตาลหลายจุดทีเดียว ทั้งบนเพดาน, พรหมรองพื้นทั้งห้องโดยสารและพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านท้าย

รถยนต์ต้นแบบ Mini Clubman All4 Scrambler Concept ได้รับการปรับโฉมจาก Clubman S All4 แน่นอนว่าขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร สี่สูบ ทวินเทอร์โบ 189 แรงม้า แรงบิด 207 ปอนด์/ฟุต ให้อัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 140 ไมล์/ชั่วโมง ถือว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะที่แรงไม่น้อยเลยทีเดียว ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย และการลุยเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับรถยนต์ Mini Clubman All4 Scrambler Concept ได้รับการเผยโฉมภายในงาน Valentino Park Motor Show ที่จัดขึ้นในประเทศอิตาลี สัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจเลยทีเดียว ไม่ว่าจะการออกแบบ หรือว่าเครื่องยนต์รวมถึงขุมกำลังก็ถือว่ายอดเยี่ยมไปเลยทีเดียว

ดูข้อมูลยานยนต์รุ่นอื่นๆได้ที่ http://th-bigbike.com/

รถยนต์อเนกประสงค์ Honda Stepwagon Spada หรูหราเหนือชั้น

รถยนต์อเนกประสงค์ Honda Stepwagon Spada หรูหราเหนือชั้น

รถยนต์อเนกประสงค์ Honda Stepwagon Spada หรูหราเหนือชั้น

รถยนต์อเนกประสงค์สุดล้ำ Honda Stepwagon Spada (ฮอนด้า สเต็ปวาก้อน สปาด้า) สะกดทุกสายตาด้วยความหรูหราที่ที่แปลกใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมลุกเล่นด้วยเส้นสายความสปอร์ตรอบคันได้อย่างลงตัวรถยนต์ Honda Stepwagon Spada Honda Stepwagon Spada มีความหรูหราที่เหนือชั้น พร้อมให้คุณได้สัมผัสมุมมองใหม่ในการเดินทาง ด้วยสุนทรียภาพฉบับเต็ม ที่เติมเต็มความสบายให้คุณอย่างสุดยอด

การออกแบบภายนอกของรถยนต์ ฮอนด้า สเต็ปวาก้อน สปาด้า เท่ด้วยกันจังหน้าโครเมี่ยม และคิ้วโครเมี่ยม อีกทั้งมือจับประตูภายนอกโครเมี่ยมที่เพิ่มเส้นสายความล้ำสมัยได้เป็นอย่างดี ฮอนด้า สเต็ปวาก้อน สปาด้า โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบรมดำสุดเท่ ชาญฉลาดด้วยระบบเปิดปิดไฟหน้าออโตเมติค เพิ่มวิสัยทัศน์การเดินทางด้วยไฟตัดหมอกคู่หน้า รถยนต์ฮอนด้า สเต็ปวาก้อน สปาด้า สปอร์ตล้ำด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์โฉบเฉี่ยว อีกทั้งล้ออัลลอย 17นิ้ว ลายเท่ ขึ้นลงง่ายสะดวกสบายด้วยประตูข้างแบบสไลด์

รถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ ออกแบบภายในมาอย่างหรูหราและสวยงาม เย็นฉ่ำด้วยระบบปรับอากาศออโตเมติค ไม่ว่าจะนั่งแถวใดก็เย็นสบายเพราะมีระบบปรับอากาศทุกแถว Honda Stepwagon Spada หรูหราด้วยเบาะนั่งแถวที่สองแบบแยกพับอิสระ อีกทั้งเบาะนั่งแถวที่สามที่สามารถปรับพับได้ถึง 60:40 มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ภายในห้องโดยสารรถยนต์รุ่นนี้ พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่อไวไฟได้ด้วยนะครับ มีช่องเชื่อมต่อ USB และ เทคโนโลยีไร้สายบลูทูธ พร้อมลำโพงรอบคันเลยทีเดียว

ราคารถยนต์ Honda Stepwgn Spada

ราคารถยนต์ Honda Stepwgn Spada E 1,899,000 บาท.
ราคารถยนต์ ฮอนด้า สเตปแวกอน สปาด้า EL 1,959,000 บาท.

ภายนอก Honda Stepwagon Spada มีให้เลือก 2 สี สีขาวพรีเมียม (มุก) และสีดำพรีเมียม (มุก)

รถยนต์อเนกประสงค์ Honda Stepwagon Spada หรูหราเหนือชั้น

สำหรับขุมกำลังรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ ใช้เครื่องยนต์แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมพ์ชาฟท์ แบบสี่สูบ 16วาล์ว  i-VTEC พร้อมระบบหัวฉีดมัลติพ้อยท์ ขนาด 1997ซีซี แรง 150แรงม้า 193นิวตั้นเมตรเลยทีเดียว รถยนต์ Honda Stepwagon Spada ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ออโตเมติคแปรผันต่อเนื่องซีวีที และบังคับเส้นทางด้วยระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า อีพีเอส ช่วงล่ากระชับ ด้วยระบบดิสก์เบรคหน้าแบบมีช่องระบายความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการเบรคด้วยระบบดิสก์เบรคหลัง ทรงตัวเยี่ยม นุ่มนวลเหนือชั้นด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีม

ด้านระบบความปลอดภัยของรถยนต์ Honda Stepwagon Spada ก็จัดเต็มชุดใหญ่ ด้วยระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบดูออล เอสอาร์เอส อีกทั้งระบบป้องกันล้อล็อค แอนตี้เบรคกิ้งซิสเต็ม ทรงตัวปลอดภัยกว่าด้วยระบบควบคุมการทรงตัววีเอสเอ มั่นใจทุกเส้นทางด้วย ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน เอชเอสเอ Honda Stepwagon Spada มีพนักพิงศีรษะเพื่อรองรับการกระแทกบริเวณต้นคอ นอกจากนี้ยังมีระบบไฟส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยวแบบออโตเมติค และกล้องส่องภาพด้านหลังขณะถอยหลัง เท่านั้นยังไม่พอ รถยนต์ SUV คันนี้ ยังมีระบบกุญแจนิรภัยอิมโมบิลิเซอร์ พร้อมสัญญาณกันขโมยครบเซ็ต