Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

Mini เผยการพัฒนารถยนต์ Mini Minor คาดมาจริงแน่

แม้ว่า BMW เผยที่จะยุติการพัฒนารถยนต์ MINI ขนาดเล็ก 3 ประตูเพื่อยกระดับการใช้งานได้ครอบคลุมทั้งส่วนตัวและครอบครัวมากขึ้น แต่ก็มีข่าวคราวของการพัฒนา MINI รุ่นใหม่ที่จะมีตัวถังขนาดเล็กอีกครั้ง โดยเป็นรถที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง BMW และ Toyota ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ว่านี้มีชื่อเผยชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า MINI Minor 

โดยข้อมูลจากสื่อต่างประเทศได้เผยรายละเอียดของข้อมูลที่มีความเป็นไปได้ว่า รถยนต์ MINI Minor นั้นจะมีขนาดตัวถังที่ยาวเพียง 3,450 มิลลิเมตรเท่ากับรถยนต์ Smart Forfour รุ่นใหม่ แต่ความยาวตัวถังขนาดนั้นก็มีความเป็นได้ว่าจะพัฒนาแฮทช์แบ็ค 5 ประตูได้อยู่บ้าง แต่ก็มีข้อมูลเผยว่าอาจทำเพียง 3 ประตู เพื่อความลงตัวของสัดส่วน แถมตัวถังนั้นจะเป็นการสร้างแพลตฟอร์มของตัวมันเอง หรืออาจพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ MINI Rocket Concept Car เรียกได้ว่าออกแบบใหม่ทุกสัดส่วน นอกจากนี้อาจรองรับระบบเครื่องยนต์ไฟฟ้าด้วย

ทั้งนี้ยังมีการเผยชื่อสำหรับจำหน่ายในโตโยต้าว่าจะเป็นชื่อ Toyota Starlet ซึ่งเป็นชื่อรถเล็กในยุคแรกๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Toyota Yaris ที่ทุกคนคุ้นเคยนั่นเอง และกำหนดการเปิดตัวนั้นได้ระบุว่าอาจได้เผยโฉมในปี 2018 หรือช้าสุดก็ภายในปี 2019 นี้

มินิ ประเทศไทย ร่วมกับผู้จำหน่ายรถยนต์ MINI อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แฟนๆ มินิได้สัมผัสยนตกรรมระดับพรีเมียม ตอบโจทย์ทั้งรูปลักษณ์และความคล่องตัวอย่างใกล้ชิดที่งาน MINI NATIONAL ROAD SHOW ที่ผู้ร่วมงานได้สัมผัสมินิรุ่นใหม่ใอย่างใกล้ชิด อาทิ MINI Clubman โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นแรกในเซ็กเมนต์รถยนต์คอมแพคระดับพรีเมี่ยม, MINI John Cooper Works (MINI JCW) โฉมใหม่ และมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรีแมน พาร์คเลน ใหม่ พร้อมร่วมทดสอบการขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์มินิและข้อเสนอสุดพิเศษ ตลอดเดือนพฤษภาคม

ในเวลานี้ MINI NATIONAL ROAD SHOW ได้เดินทางจัดแสดงรถใหม่ให้แฟนๆ ชาวระยองได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่เซ็นทรัล พลาซ่า ระยอง โดยได้จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนภูมิภาคอื่นประกอบไปด้วย วันที่ 12 – 15 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า อุดรธานี และวันที่ 26 – 29 พฤษภาคม ที่เซ็นทรัล พลาซ่า สุราษฏร์ธานี 

ดูข้อมูลยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้ที่ http://th-bigbike.com/

ค่ายรถยนต์ Hyundai เผยโฉม New York Concept รถซีดานสปอร์ตล้ำที่ปูทางสู่ G70

ค่ายรถยนต์ Hyundai  เผยโฉม New York Concept รถซีดานสปอร์ตล้ำที่ปูทางสู่ G70

ค่ายรถยนต์ Hyundai ประกาศผลักดันแบรนด์รถยนต์หรู Genesis อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างฐานให้แน่นยิ่งขึ้นโดยล่าสุดได้เผยโฉมรถต้นแบบรุ่นใหม่กลางงานนิวยอร์ก ออโต้โชว์ 2016 ด้วยรถชื่อเดียวกับงาน Genesis New York Concept ที่สื่อหลายเจ้าต่างเผยเป็นเสียงเดียวว่านี่คือรถต้นแบบที่จะมาท้าชน BMW Series 3 โดยเฉพาะ ทำเอาสาวกค่ายฮุนไดต่างให้ความสนใจและเฝ้าตั้งตารอ

สำหรับรถยนต์ Genesis New York Concept ว่าที่รถซีดานต้นแบบ ด้วยการออกแบบในแนวทาง Athletic Elegance ที่ดึงความหรูหราออกมาได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการออกแบบที่ดูสมส่วนกำลังดี ด้วยแรงบันดาลใจที่ผสมผสานกระบวนการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและความปราดเปรียวที่แสดงถึงความเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่มอบทั้งความหรูหรา, ความสปอร์ตเข้มข้น และความโดดเด่น

รูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์ Genesis New York Concept เป็นรถซีดานที่ออกแบบท้ายให้ลาดเหมือนคูเป้ มีสัดส่วนหน้ารถที่ยาวแต่ได้ออกแบบให้มีระยะฐานล้อที่กว้าง, กระจังหน้าที่มีความปราดเปรียวแต่คุงเอกลักษณ์งานออกแบบของฮุนได-เจเนซิส, ไฟหน้า LED ที่ออกแบบการวางตำแหน่งคล้ายเม็ด Pixel จนมีประกายที่สวยงาม, ช่องระบายอากาศล้อหน้ามีการตกแต่งลวงลายรังผึ้งด้วย

การออกแบบภายในห้องโดยสารจองรถยนต์ใหม่รุ่นนี้ ที่แสดงถึงความหรูหราและล้ำสมัยผ่านทางเส้นสายของแผงคอนโซล, ช่องแอร์ และเบาะนั่ง โดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดแบบอนาล็อกที่เชื่อมต่อกับหน้าจอสีขนาด 21 นิ้วลอยที่ลอยขึ้นเหนือแผงคอนโซลที่พัฒนาให้รองรับการออกคำสั่งด้วยท่าทาง 3 มิติ โดยเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้อย่าง LG

ส่วนข้อมูลของขุมพลังขับเคลื่อนนั้นได้ระบุว่าจะบรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรทั้งแบบธรรมดาและไฮบริด โดยเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นจะให้สมรรถนะสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิด 353 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถือว่าเป้นรถยนต์ที่มีความแรงอยู่พอตัวเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นอีกรุ่นในตลาดรถที่น่าสนใจ

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า Genesis New York Concept จะถูกพัฒนาเป็น G70 ในอนาคต ตามแผนกำหนดการณ์ของทางฮุนได-เจเนซิสที่ได้วางเอาไว้ก่อนหน้านั้น ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป ว่าในตลาดรถประเทศไทยจะนำรถยนต์รุ่นนี้มาขายหรือไม่

ที่มา https://my.dek-d.com/0010pond/blog/

Chevrolet เปิดตัว 2 รถยนต์สู่ทิศทางใหม่ของรถขาลุย ในงานมอเตอร์โชว์

Chevrolet เปิดตัว 2 รถยนต์สู่ทิศทางใหม่ของรถขาลุย ในงานมอเตอร์โชว์

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เผยโฉม Show vehicle ใหม่สไตล์ขาลุย จัดเต็มทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Colorado Xtreme (โคโลราโด เอ็กซ์ตรีม) และ Trailblazer Premier (เทรลเบลเซอร์ พรีเมียร์) โดยทั้งสองคันนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางใหม่อันน่าตื่นเต้นของ Chevrolet ในการทำตลาดรถกระบะและรถ SUV ที่ประเทศไทยในอนาคต พร้อมกับสัมผัสยนตกรรมรุ่นต่างๆ และกิจกรรมสุดพิเศษที่ Chevrolet มอบให้กับผู้ร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ อย่างเต็มรูปแบบ

กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่บูธ Chevrolet ภายในงานมอเตอร์โชว์ว่า “Show vehicle ทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับความน่าตื่นเต้น และเพิ่มอารมณ์ความเป็นรถกระบะและรถเอสยูวี ซึ่งเซกเมนท์ที่มีความสำคัญ ตลอดจนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเชฟโรเลตที่มีต่อตลาดรถในประเทศไทย”

รถยนต์ Chevrolet Colorado Xtreme แสดงถึงความเป็นรถกระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง โดดเด่นด้วยสกู๊ปดักลมบนฝากระโปรง บันไดข้าง, สปอร์ตบาร์, ซาฟารี บาร์, ยางออฟโรดเต็มรูปแบบขนาด 18 นิ้วที่เพิ่มรูปลักษณ์ที่พร้อมการลุยในเส้นทางที่ท้าทาย ที่สำคัญยังถ่ายทอดความพร้อมในการลุยสไตล์เอ็กซ์ตรีม ด้วยห้องโดยสารที่ประกอบไปด้วยมาตรวัดเสริม, มาตรวัดระดับความเอียง, มือจับฝั่งผู้โดยสารบนแดชบอร์ด, หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่บรรจุระบบมายลิงค์รุ่นล่าสุดที่รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Apple CarPlay® และ Android Auto เป็นต้น

ขณะที่รถยนต์ Chevrolet Trailblazer Premier เป็นรถยนต์ SUV ที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการเดินทางบนเส้นทางแปลกใหม่ แต่ยังต้องการความสะดวกสบายและความหรูหรา ซึ่งในแง่ของสีสันและวัสดุ ได้เน้นย้ำความหรูหราด้วยการใช้โครเมียมโทนสีสว่างและวัสดุระดับพรีเมียมอย่างไม้ออสเตรเลียที่คัดสรรและผลิตด้วยมือ

ด้วยความใส่ใจสูงสุดต่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ภายในห้องโดยสารรถยนต์ Chevrolet Trailblazer Premier ได้รับการตกแต่งและประกอบด้วยคุณภาพเหนือระดับ การใช้สี วัสดุ และพื้นผิวที่มีความละเอียดและมีเอกลักษณ์สร้างความรู้สึกพรีเมียมในแบบที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยครั้งนักสำหรับเซกเมนท์นี้ เทคนิคและกระบวนการตกแต่ง อย่างการขลิบขอบผ้าแบบพิเศษ และการตัดเย็บตาข่ายด้านหลังเบาะที่นั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยมือช่วยเพิ่มบรรยากาศระดับพรีเมียมสุดพิเศษภายในห้องโดยสาร

นอกจาก Show vehicle ทั้งสองคัน ผู้เยี่ยมชมบูธ Chevrolet จะได้สัมผัสกับเชฟโรเลต แคปติวา โฉมใหม่ ซึ่งเป็นรถ SUV รุ่นแรกในประเทศไทยที่รองรับ Apple CarPlay® ผ่านระบบมายลิงค์แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ใช้กราฟฟิกที่มีสีสันชัดเจน ไอคอนที่อ่านง่ายขึ้น และทำงานเร็วขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความสะดวกสบาย ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยผ่านการสั่งงานด้วยเสียงทั้งการโทรศัพท์และการส่งข้อความ

รถยนต์ เชฟโรเลต แคปติวายังเป็นรถรุ่นแรกของ Chevrolet ที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือการออกแบบกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวันในตัวแบบแอลอีดี รวมถึงไฟตัดหมอกที่กันชนด้านหน้า นอกจากนี้ยังมีการปรับตำแหน่งของโบว์ไทสัญลักษณ์ของเชฟโรเลตให้สูงขึ้นอีกด้วย เมื่อมองในภาพรวม แคปติวามีรูปลักษณ์ที่สดใหม่ขึ้น เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและความรู้สึกร่วมสมัย

ในงานมอเตอร์โชว์ Chevrolet ยังจัดแสดงรถยนต์ Chevrolet Trailblazer Urban Pack II (เทรลเบลเซอร์ เออร์แบน แพ็ค II) รถอเนกประสงค์ยอดนิยมที่ได้รับการถูกตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มความแข็งแกร่งในขณะเดียวกันยังคงรักษาภาพลักษณ์ความหรูหราของตัวรถไว้เช่นเดิม โดยการติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาสีเดียวกับตัวรถ พลาสติกกันรอยที่กันชนหลัง อุปกรณ์ตกแต่งประตูข้างแบบโครเมียม ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันแบบแอลอีดี ล้ออัลลอยสีทูโทน และจอมอนิเตอร์แอลอีดีขนาด 10.1 นิ้วบนเพดานภายในห้องโดยสาร

Trailblazer Urban Pack II มีจำหน่ายในรุ่น 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสี่ล้อ LTZ1 มีสามสีให้เลือก ได้แก่ สีขาว Summit White สีดำ Black Sapphire และสีน้ำตาล Auburn Brown โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,512,000 บาท

นอกจากความอลังการของ Show vehicle และรถรุ่นใหม่ที่ Chevrolet นำมาจัดแสดง ผู้เยี่ยมชมบูธ Chevrolet และลูกค้าจะได้เพลินเพลินไปกับมุมอุปกรณ์ตกแต่งสำหรับรถเชฟโรเลตภายในงาน และโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยเฉพาะแคมเปญรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (trade-in program) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

ลูกค้าที่นำรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มาแลกซื้อรถ Chevrolet จะได้รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินรถคันเก่า สำหรับเป็นส่วนลดแลกซื้อรถ Chevrolet คันใหม่มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท และรับส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยต่ำสุด 0.49 เปอร์เซ็นต์ และประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี

พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานมอเตอร์โชว์หรือที่ศูนย์ผู้จัดจำหน่าย Chevrolet ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 21 มีนาคมถึง 3 เมษายน และรับมอบรถภายในวันที่ 30 เมษายน จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมฟรีทุกค่าใช้จ่าย หรือเลือกรับส่วนลดเงินสดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท และรับกระเป๋าเดินทางสุดหรูของ Chevrolet มูลค่า 3,000 บาท

นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่จองรถ Chevrolet ระหว่างวันที่ 8 มีนาคมถึง 30 เมษายน จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษบินลัดฟ้าสู่ประเทศอังกฤษ รับประทานอาหารค่ำท่ามกลางบรรยากาศสุดหรูในเชฟโรเลต เซนเทนเนียล สวีท ชมเกมการแข่งขันของทีมปีศาจแดง และพบปะกับนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างใกล้ชิด

ผู้เยี่ยมชมงานและลูกค้า Chevrolet จะได้รับของขวัญที่ระลึก อาทิ กระเป๋าผ้าหรือแก้วจากเชฟโรเลต เมื่อลงทะเบียนภายในงาน และรับคูปองจากแมคโดนัลด์เมื่อทดลองขับ

พบยนตรกรรมอันน่าตื่นเต้นภายในบูธ Chevrolet ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ณ อิมแพ็ค ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน ตั้งแต่เวลา 12.00 – 22.00น. ในวันธรรมดา และ 11.00 – 22.00น. ในช่วงสุดสัปดาห์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://autoshank.blogspot.com/

ค่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ส่งทัพยนตกรรมร่วม 30 รุ่นภายในงานมอเตอร์โชว์

ค่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ส่งทัพยนตกรรมร่วม 30 รุ่นภายในงานมอเตอร์โชว์

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ด้วยการส่งทัพยนตกรรมระดับพรีเมี่ยมร่วม 30 กว่าคัน โดยเฉพาะการเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรม 7 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ นำโดย The new E-Class เจนเนอเรชั่นที่ 10, The S500e, The C350e รถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอิน-ไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศ,  The new C-Class Coupé ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุด, The new GLS เอสยูวี ระดับเอส-คลาส และสองยนตรกรรมจากค่าย Mercedes-AMG ได้แก่ Mercedes-AMG A 45 และ Mercedes-AMG C63S Coupé และเสริมทัพด้วย The new Vito concept ทั้งหมดนี้ พร้อมให้คุณได้ชม, สัมผัสและจับจองพร้อมกันที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์อิมแพค เมืองทองธานี

ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ” บริษัทฯ มีแนวทางการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ THE BEST เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าในวันนี้ และวันข้างหน้า ดังนั้นการนำเสนอรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ” ในครั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้นำสุดยอดยนตรกรรมที่มาพร้อมเทคโนโลยีและดีไซน์อันทันสมัยครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Compact Car กลุ่ม Contemporary Luxury และกลุ่ม Dream Car เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมในทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่”

รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ในปีนี้ ค่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เตรียมเปิดตัวยนตรกรรมใหม่ 7 รุ่น นำทัพด้วย The new E-Class, The S500e และ The C350e รถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นประกอบในประเทศ และ The new C-Class Coupé ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมด้วย The new GLS และยนตรกรรมจากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ Mercedes-AMG A45 และ Mercedes-AMG C63S Coupé อีกทั้งยังได้นำ The new Vito concept และยนตรกรรมอีกกว่า 30 รุ่น ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์มาจัดแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด”

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า

ค่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เตรียมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณแก่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนยนตกรรมระดับพรีเมี่ยม ดังนี้

แคมเปญ Mercedes Card

  • สมัครบัตรเครดิตเมอร์เซเดสการ์ดใบใหม่วันนี้ รับ Cash back สูงสุด 5,000 บาท* (ตรวจสอบเงื่อนไข ณ จุดขาย)
  • สำหรับผู้ถือบัตรเมอร์เซเดสการ์ด – เมื่อจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงาน ผ่านบัตรเมอร์เซเดสการ์ด 200,000 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัลที่พักโรงแรมมูลค่า 10,000 บาท

ข้อเสนอสุดพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง

  • สำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงาน บริษัทฯ นำเสนอสินเชื่อภายใต้โปรแกรม mySTAR Special รับสิทธิพิเศษอัตราผ่อนชำระต่อเดือนต่ำกว่า 1%  ของราคารถยนต์ (เฉพาะรุ่น)

ทั้งหมดนี้ พร้อมให้คุณได้สัมผัสรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมจากเยอรมันที่ครองใจชาวไทยมากที่สุดได้ที่บูธ Mercedes-Benz ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์อิมแพค เมืองทองธานี

ดูข้อมูลรถยนต์รุ่นอื่นๆได้ที่ http://th-bigbike.blogspot.com/

Rolls-Royce ส่งรถยนต์หรูทุกรุ่นพร้อม “คชมงคล” ที่งาน Motor Show

Rolls-Royce ส่งรถยนต์หรูทุกรุ่นพร้อม "คชมงคล" ที่งาน Motor Show

 บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ส่งยนตกรรมหรูที่ครองใจคนทั้งโลกให้ผู้ร่วมงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้ชมอย่างใกล้ชิด ไฮไลท์สำคัญในครั้งนี้คือการจัดแสดงรถยนต์รุ่นพิเศษ “คชมงคล” ผลงานที่รังสรรค์ขึ้นจากบริการสั่งทำพิเศษ Bespoke (บีสโป๊ก) โดยชื่อและลวดลายการออกแบบของยนตรกรรมหนึ่งเดียวคันนี้หมายถึงสิ่งอันเป็นมงคลในวัฒนธรรมไทย พร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์ Rolls-Royce Dawn ยนตรกรรมเปิดประทุนหรู 4 ที่นั่งครั้งแรกในอาเซียน และรถรุ่นอื่นๆ อย่างคับคั่ง

 ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “โปรแกรมบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) คือ สุดยอดบริการที่เรามอบให้แก่ลูกค้าในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์และเฉพาะบุคคล ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถรังสรรค์ผลงานที่สะท้อนความเป็นไทยด้วยยนตรกรรมที่มีความหมายอันเป็นมงคล และยังเป็นการเผยแพร่สัญลักษณ์ประจำชาติและของภูมิภาคเอเชียอีกด้วย”

รถยนต์ Rolls-Royce Ghost รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล” ยนตรกรรมหรูหนึ่งเดียวคันนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างบ้านของโรลส์-รอยซ์ที่กู้ดวูด, โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้แทนจำหน่ายโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์สอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และกรมศิลปากรของประเทศไทย กระบวนการการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย การร่างลวดลายที่สะท้อนความเป็นไทยเพื่อให้ทางทีมงานบีสโป๊กที่กู้ดวูดได้คัดเลือก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์สำคัญประจำประเทศไทยอย่าง “ช้าง” จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของประเทศไทย ช้างได้มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกป้องประเทศชาติ

รถยนต์ โรลส์-รอยซ์ โกสต์ รุ่นขยายฐานล้อที่ได้รับความนิยมในหมู่นักธุรกิจในประเทศไทย ได้ถูกเลือกให้เป็นยนตรกรรมในการสร้างสรรค์ “คชมงคล” ทีมงานบีสโป๊กได้ใช้ลายช้างในการตกแต่งยนตรกรรมทั้งภายนอก และภายใน ซึ่งในส่วนภายในรถยนต์จะเห็นงานฝังประดับลายช้างบนไม้วีเนียร์สะท้อนให้เห็นถึงฝีมืออันประณีตของทีมช่างฝีมือ ในส่วนของภายนอกประดับด้วยเส้นคู่ข้างรถสีส้มแมนดาริน และลายช้างที่วาดโดยนักวาด coachline มร. มาร์ค คอร์ท ผู้ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่จะบรรจงวาดงานศิลป์บนยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า       

ตัวถังสีขาว English White ซึ่งเป็นสีพื้นที่ทำให้ลายช้างมีความโดดเด่น ส่วนภายในรถด้านข้างประตูบุหนังลายธรรมชาติสีเทาควันบุหรี่ และสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับตะเข็บสีส้มแมนดาริน ในขณะที่พนักพิงศีรษะปักโลโก้ RR สีส้มแมนดาริน และพิเศษสุดกับร่มเคลือบเทฟลอนสีน้ำตาลเข้ม เพื่อการให้โทนสีที่เข้ากัน ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้แนวคิดในแบบฉบับของโรลส์-รอยว์ที่ว่า “เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่สงบและเรียบง่าย” และขุมพลังขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ V12 ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 563 แรงม้า แรงบิด 780 นิวตัน-เมตร   

“ยนตรกรรมโกสต์รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล” มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น งานออกแบบยังไม่เคยถูกใช้กับรถยนต์ที่ไหนมาก่อน ดังนั้นในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์โกสต์รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล” ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งชื่อ และลวดลายการออกแบบทำให้ยนตรกรรมคันนี้มีความเป็นสิริมงคล โดยความเชื่อของชาวไทยหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความสุข ทำให้ยนตรกรรมคันนี้มีความหมายมากกว่ารถยนต์ และนี่คือยนตรกรรมบีสโป๊กที่สำคัญต่อเรามากที่สุดในขณะนี้ รองกรรมการผู้จัดการ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวเสริม

รวมไปถึงทางโรลส์-รอยส์ ได้เปิดตัวรถยนต์ Rolls-Royce Dawn ยนตรกรรมเปิดประทุนหรู 4 ที่นั่ง เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ความพิถีพิถันทางด้านวิศวกรรม และการผลิตนั้นปรากฏอยู่ในการสร้างสรรค์ส่วนหลังคาของยนตรกรรมรุ่น ดอว์น สิ่งที่ไม่เคยปรากฏทีใดในโลกของอุตสาหกรรมยานยนต์จนถึงปัจจุบัน คือหลังคาของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นสามารถเปิดออกได้อย่างเงียบเชียบที่สุดราวกับรถยนต์รุ่น เรธ ในเวลาประมาณ 20 วินาทีที่ความเร็วในขณะรถวิ่งประหนึ่ง ‘จินตลีลาแห่งความเงียบ’

รถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ดอว์น เป็นยนตรกรรมเปิดประทุนใหม่คันแรกของบริษัทฯ ในรอบ 8 ปี มีขุมพลังอยู่ที่เครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ V12 ให้สมรรถนะขับเคลื่อนสูงสุด 563 แรงม้า แรงบิด 780 นิวตัน-เมตร

ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ด้วยรูปลักษณ์ของดอว์นที่ถูกออกแบบให้โฉบเฉี่ยวและร่วมสมัย เราได้ผลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่โรลส์-รอยซ์ ให้เป็นยนตรกรรมหรูที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และ เร้าใจ”

ทั้งรถยนต์ Rolls-Royce Ghost รุ่นขยายฐานล้อ “คชมงคล”, รถยนต์ Rolls-Royce Dawn และยนตกรรมรุ่นอื่นๆ พร้อมให้คุณได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่บูธ Rolls-Royce ในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน

ดูข้อมูลรถยนต์เพิ่มเติมได้ที่ https://pondpsycho.wordpress.com/

ค่าย Nissan เปิดตัวรถยนต์ใหม่ ให้ได้สัมผัสกันที่งานมอเตอร์โชว์

ค่าย Nissan เปิดตัวรถยนต์ใหม่ ให้ได้สัมผัสกันที่งานมอเตอร์โชว์

ค่ายรถยนต์ Nissan เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ในไทย เปิดตัวแบรนด์ Nismo อย่างเป็นทางการ ชูยนตรกรรมล้ำสมัย ที่สร้างความเร้าใจ เต็มอารมณ์สปอร์ตทุกเซ็กเมนต์ ประเดิมด้วยรุ่น “Almera Nismo Performance Package” พร้อมกับยกทัพรถยนต์นิสสันยอดนิยมเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตทุกเซ็กเมนต์มาแสดงและจำหน่าย โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิสสัน มอเตอร์สปอร์ตฯ บินตรงมาร่วมงาน พร้อมนำ Nissan GT-R Nismo สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ที่คว้าชัยชนะมาแล้วหลายสนามมาสร้างความคึกคัก รวมถึงมีการเปิดตัวรถยนต์ Nissan Juke Color Studio ใหม่ล่าสุด ที่งาน Bangkok International Motor Show โดยนิสสันตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดจากยอดจองในงานประมาณ 10%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์สปอร์ต อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ได้ประกาศเปิดแบรนด์ Nismo สู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ว่า “การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนก้าวสำคัญของแผนการขยายความสำเร็จ และความแข็งแกร่งของแบรนด์นิสโมไปทั่วโลก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงขีดสุดแห่งความเหนือชั้นของแบรนด์นิสสัน ดังพันธสัญญาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อสร้างความเร้าใจให้กับลูกค้าหรือ “Innovation that Excites” โดย NISMO เป็นชื่อย่อของ Nissan Motorsports ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 ซึ่งตลอดระยะเวลา 32 ปีที่ผ่านมา นิสสันได้ใช้แบรนด์ นิสโม ในการทำกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเยี่ยม เช่น การกวาดชัยชนะถึง 9 รายการในการแข่งขันระดับโลก รวมถึงการแข่งขันรายการ Super GT ที่ Nissan สามารถคว้าแชมป์ทั้งรุ่น GT500 และ GT300

ซึ่งทาง นิสโม มีส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ของนิสสันให้แข็งแกร่ง ในฐานะแบรนด์ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตื่นเต้นเร้าใจ โดยหน้าที่หลักของนิสโมคือ พัฒนาเทคโนโลยีและสมรรถนะสำหรับกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต และพัฒนา Road Cars หรือรถยนต์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการนำประสบการณ์ แรงบันดาลใจ และเทคโนโลยีจากสนามแข่ง มาใช้ในการพัฒนาสมรรถนะรถยนต์ของนิสสันมีความเหนือชั้นขึ้นไปอีก ทั้งด้านการดีไซน์ การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ การควบคุมรถ และสมรรถนะ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงความโดดเด่นและความแตกต่างที่เยี่ยมยอดของรถที่ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ Nismo ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ก้าวข้ามข้อจำกัด สู่เส้นทางการเป็นนักแข่งรถมืออาชีพทีมนิสโม ภายใต้โครงการ นิสสัน จีที อคาเดมี (Nissan GT Academy) สานฝันเซียนเกม สู่นักแข่งระดับโลก ซึ่ง นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประกาศยืนยันว่าจะเข้าร่วมโครงการนี้เป็นปีที่ 3″

ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นิสสันมีแผนที่จะ ทยอยเปิดตัวรถยนต์นิสโมรุ่นต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากรุ่นแรก คือรถยนต์ อัลเมรา นิสโม เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพคเกจ (Almera Nismo Performance Package) และ อัลเมรา นิสโม แอโร แพคเกจ (Almera Nismo Aero Package) โดยมั่นใจว่าความสำเร็จของแบรนด์นิสโม จะสร้างความคึกคักให้กับแบรนด์นิสสันในประเทศไทย และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์นิสสันในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ซึ่งความพิเศษของรถยนต์อัลเมรา นิสโม เกิดจากการผสานแรงบันดาลใจ ประสบการณ์ และสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ของทีมวิศวกรที่ออกแบบและพัฒนารถยนต์นิสสัน จีที-อาร์ จนสามารถคว้าชัยชนะจากแข่งขันรายการซุปเปอร์จีที เป็นความพิเศษสุด ที่เราอยากให้สัมผัส ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกถึงความแตกต่างในทันทีที่ ได้เข้าไปนั่งควบคุมอยู่หลังพวงมาลัยรถ สำหรับเหตุผลที่เลือก Nissan Almera เป็นรุ่นแรก เนื่องจาก ครองใจลูกค้าชาวไทยมายาวนานในฐานะรถยนต์อีโคคาร์ซีดานอันดับ 1 ที่ประสบความสำเร็จในตลาดอย่างมาก ด้วยยอดขายสะสมปัจจุบันรวมกว่า 130,000 คัน”

ค่ายรถยนต์ Nissan ได้นำเสนอยนตรกรรมล้ำสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Innovation that Excites โดยนายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “เพื่อฉลองการเปิดตัวแบรนด์นิสโมอย่างเป็นทางการ บริษัทฯ ได้นำ Nissan GT-R Nismo สุดยอดสมรรถนะสูงของ Nissan ที่สร้างชื่อเสียงคว้าแชมป์ในเวทีมอเตอร์สปอร์ตโลกมาแล้วหลายรายการ โดยเฉพาะ Super GT มาร่วมจัดแสดงด้วย ถึงแผนการสื่อสารทางการตลาดว่า ว่าจะใช้สื่อที่เข้าถึงลูกค้าในรูปแบบต่างๆหลากหลาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความเร้าใจที่ไปได้สุด” หรือ “Performance Unleashed” รวมถึงเพิ่มการรับรู้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตลอดจนกิจกรรมสำหรับนิสโม พริวิลเลจ เมมเบอร์ (Nismo Privilege Member) อีกมากมาย”

ในงานบางกอก อินเตอร์ เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 Nissan ยังได้สร้างความเร้าใจ ด้วยการเปิดตัว Nissan Juke Color Studio สปอร์ตครอสโอเวอร์ที่สะท้อนความเป็นตัวเองของผู้ขับขี่ได้อย่างดี โดยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามีความสนุกสนานในการเลือกจับคู่ระหว่างสีภายนอกและสีของอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังนำยนตรกรรมยอดนิยมในทุกเซ็กเมนต์ของนิสสัน มาให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยในกลุ่มซีดาน นิสสันภูมิใจนำเสนอรถยนต์ Nissan Sylphy DIG Turbo สปอร์ตซีดานที่หรู แรงเกินตัว ด้วยพลังที่แรงที่สุดในคลาสถึง 190 แรงม้า เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร

และรถยนต์ Nissan Teana ที่สุดของซีดานหรูที่บรรจุเทคโนโลยีล้ำสมัยรอบด้าน ส่วนในกลุ่มรถยนต์ SUV นำเสนอ Nissan X-Trail Hybrid ที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch system) และกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงหลังจากเปิดตัวเข้าสู่ตลาดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ด้านกลุ่มรถกระบะ นำเสนอรถกระบะ Nissan Navara รุ่น Sportech กระบะพันธุ์แกร่ง ที่มีความเท่ล้ำสมัย มีดีไซน์ที่โดดเด่น มาพร้อมชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ส่วนกลุ่มอีโคคาร์ นำเสนอ Nissan March อีโคคาร์ยอดนิยมกับออพชันที่เพิ่มเครื่องเล่น DVD เพื่อเสริมความคุ้มค่า ทั้งนี้นิสสันตั้งเป้าที่ได้ส่วนแบ่งการตลาดจากยอดจองในงานประมาณ 10%

ด้านการส่งเสริมการขาย นิสสันได้จัดโปรโมชั่นด้วยข้อเสนอสุดพิเศษในงานมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลายในแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เงื่อนไข ดาวน์ต่ำ หรือ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นที่ 0% หรือ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี ซึ่งผู้ที่สนใจ ยนตรกรรมจากนิสสัน สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ 213 แห่งทั่วประเทศ สำหรับรถยนต์ นิสสัน อัลเมรา นิสโม ทั้ง แอโร แพคเกจ และ เพอร์ฟอร์แมนซ์ แพคเกจ สามารถติดต่อที่ ผู้จำหน่ายนิสโม เพอร์ฟอร์แมนซ์ อย่างเป็นทางการ (Nismo Certified Dealer) หรือ ไปชมและทดลองขับได้ที่บูธ Nissan ในงาน Bangkok International Motor Show ที่ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Honda เปิดตัวรถยนต์ใหม่ ที่งานมอเตอร์โชว์

Honda เปิดตัวรถยนต์ใหม่ ที่งานมอเตอร์โชว์

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมมอบประสบการณ์สัมผัสยนตกรรมใหม่ล่าสุดจากฮอนด้าที่จะยกคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอยกตกรรมจากฮอนด้าทุกรุ่น โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการนำเสนอรถยนต์ All-New Honda Civic เจเนอเรชั่นที่ 10 ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด New Honda Accord ผ่านการนำเสนอด้วยแนวคิด Road Through The Tunnel of Time เส้นทางแห่งความท้าทาย ผ่านมิติของกาลเวลา ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Honda Civic ยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของฮอนด้ากว่า 43 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 1 ในปี 2515 และได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงเจนเนอเรชั่นที่ 9 และมาสู่การพลิกโฉมครั้งสำคัญในรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค เจนเนอเรชั่นที่ 10 นำมาสู่แรงบันดาลใจในการออกแบบบูธฮอนด้าให้มีความพิเศษ และแตกต่างจากทุกปี

เพื่อเป็นการต้อนรับรถยนต์ Honda Civic ใหม่ภายใต้แนวคิด Road Through The Tunnel of Time เส้นทางแห่งความท้าทาย ผ่านมิติของกาลเวลา สู่ที่สุดแห่งโลกยนตรกรรมด้วยการเปิดมุมมองของบูธในทุกด้าน และมีเส้นถนนสีแดงทอดยาวผ่านกลางบูธ เพื่อนำสายตาของทุกท่านไปยังอุโมงค์รูปตัว C ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค โดยการจัดแสดงในปีนี้ มีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยยอดจองกว่า 3,000คัน นับจากการเปิดตัว เพียง 10 วัน และมาพร้อมหลากหลายยนตรกรรมฮอนด้ารวม 8 รุ่น ที่จะพาทุกท่านเดินทางสู่ทุกเส้นทางแห่งความท้าทาย และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

Honda ภูมิใจนำเสนอรถยนต์ Honda Civic ใหม่ มาพร้อมกับการออกแบบให้ตัวรถมีความพรีเมียมสปอร์ต พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับ D-Segment พร้อมกับเครื่องยนต์ที่มีทั้งเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และ 1.5 ลิตร VTEC TURBO ใหม่ ที่ให้สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร แต่ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่เทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมบรรจุฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย

อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วย Engine Remote Start และมาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรคมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เป็นต้น ซึ่งนับเป็นการยกระดับ Honda Civic ให้ก้าวล้ำนำสมัยสู่ความเป็นที่สุดของซีวิค อีกรุ่นที่ไม่ควรพลาดอย่างรถยนต์ Honda Accord ด้วยชุดตกแต่งภายในลายไม้และสีดำเปียโนแบล็ค สะดวกสบายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ Honda BR-V มีให้เลือก2 รุ่น ได้แก่ Honda BR-V รุ่น SV เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายและ Honda BR-V รุ่น V เบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ด้านท้ายขนาดใหญ่ พร้อมขับเคลื่อนสู่ทุกเส้นทางท้าทาย ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เอิร์ธดรีมเทคโนโลยี ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อีกทั้งรองรับพลังงานทางเลือก E85 และมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน เพื่อความมั่นใจในทุกการขับขี่

รวมไปถึงยนตกรรมรุ่นอื่นๆ จากฮอนด้าที่ให้คุณได้เป็นเจ้าของ พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่บูธ Honda ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ถึง 3 เมษายน

ค่ายรถยนต์ Mitsubishi ขนทัพยนตกรรมที่มอบความคุ้มค่าที่งานมอเตอร์โชว์

ค่ายรถยนต์ Mitsubishi ขนทัพยนตกรรมที่มอบความคุ้มค่าที่งานมอเตอร์โชว์
ค่ายรถยนต์ Mitsubishi ขนทัพยนตกรรมที่มอบความคุ้มค่าที่งานมอเตอร์โชว์

ค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จัดทัพยนตรกรรม Mitsubishi ทุกรุ่น ยลโฉมพร้อมกันที่งาน มอเตอร์โชว์ ย้ำชัด “ความคุ้มค่า” ที่เหนือกว่า พร้อมไฮไลท์หลักเปิดตัวรถกระบะ “มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น” โดยรับเชิญคุณลีโอนา ชิน นักแข่งรถดริฟท์สาวจากมาเลเซีย มาร่วมเปิดตัวรถรุ่นนี้ ชูชุดแต่งจากโรงงาน และติดตั้งจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นครั้งแรกในรถกระบะ พร้อมเปิดตัว Line Official Account ครั้งแรกของ Mitsubishi ที่จะพา “พี่มิต-น้องมายด์” ออกมาโลดแล่นในโลกโซเชียล พลาดไม่ได้กับแคมเปญ ‘ดาวน์ต่ำ 0% -ประกันภัยชั้นหนึ่ง- ฟรีค่าแรง 5 ปี’ และลุ้นรับแพคเกจทัวร์ญี่ปุ่นฟรีเมื่อทดลองขับและจองซื้อรถ Mitsubishi ทุกรุ่นในงาน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยว่า “ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2559 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมจัดทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่ของมิตซูบิชิเพื่อจัดแสดง ต่อสาธารณชนอย่างครบครันทุกเซ็กต์เม้นต์ ชูจุดเด่นเรื่องของสมรรถนะ และความคุ้มค่าด้วยออพชั่นแบบจัดเต็ม เพื่อตอบสนองความพึงพอใจที่แตกต่างของทุกกลุ่มเป้าหมาย

ประกอบไปด้วยรถกระบะ ‘ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่’ โดดเด่นด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ MIVEC Clean Diesel ที่ให้กำลังแรงสูงสุดถึง 181 แรงม้า แต่ประหยัดน้ำมันขึ้น 20% พร้อมแนะนำรุ่นแต่งพิเศษ “ลิมิเต็ด เอดิชั่น” ภายในงาน, รถอเนกประสงค์ PPV ‘ปาเจโร สปอร์ต ใหม่’ มาพร้อมสมรรถนะ ความหรูหรา และความสะดวกสบายอย่างครบครัน พร้อมด้วยรถอีโคคาร์ ‘มิตซูบิชิ มิราจ และ มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่’ ที่ให้ความสนุกในการขับขี่ด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย และความประหยัด โดยมาพร้อมกับแคมเปญพิเศษต่างๆ มากมาย สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานและโชว์รูมทั่วประเทศทั้ง 223 แห่ง อาทิ ดาวน์ต่ำ 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 “ไดมอนด์ โปรเทคชั่น” และคูปองเช็คระยะฟรีค่าแรงในการบำรุงรักษารถนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแล้วแต่ระยะใดถึงก่อน”

รถกระบะ Mitsubishi Triton ใหม่ นำทัพย้ำสมรรถนะ “สั่งได้ดังใจคิด” ยนตรกรรมไฮไลท์สำคัญของมิตซูบิชิที่จะจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ คือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ลิมิเต็ด เอดิชั่น (The New Triton Limited Edition) รุ่นแต่งพิเศษที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ MIVEC CLEAN Diesel ขนาด 2.4 ลิตร ที่ให้ความสมดุลย์ของสมรรถนะและความสามารถในการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20% พร้อมความโดดเด่นของอ็อพชั่นพิเศษและอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก 3 รายการ ได้แก่ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว, ฝาครอบโครเมียมใต้กันชนหน้า และบันไดข้างดีไซน์ใหม่ตกแต่งโครเมียม

ขณะที่ภายในมีการติดตั้งจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Roof Monitor) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีในรถกระบะ เพื่อช่วยสร้างความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง และเบาะโดยสารด้านคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง (Power Seat) ที่ปกติจะมีอยู่ในเฉพาะ Mitsubishi Triton รุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น โดยผลิตจำนวนจำกัดและมี 3 สี ให้เลือกคือ สีขาว สีดำ และสีพิเศษฟ้า (Impulse Blue) โดยรุ่นเกียร์ธรรมดาขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา Mitsubishi Triton รุ่นนี้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 844,000 บาท และ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยราคา Mitsubishi Triton มีค่าตัวอยู่ที่ 889,000 บาท

ภายในงานมอเตอร์โชว์นี้ มิตซูบิชิ จะทำการเปิดตัว Line Official Account “Mitsubishi Motors Th” เป็นหนึ่งในช่องทางสื่อสาร และนำเสนอกิจกรรมรวมทั้งข้อเสนอพิเศษของมิตซูบิชิ ให้ลูกค้าได้รับทราบในทันที เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่นิยมการติดต่อสื่อสารผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยมีการจัดทำไลน์สติกเกอร์ชุด “พี่มิตและน้องมายด์” รวม 16 แบบ มาให้ผู้ที่สนใจดาวน์โหลดได้ฟรีเพียง Add Official Account Line ID “@MitsubishiMotorsTh” เป็นเพื่อน ตั้งแต่วันนี้ถึง 22 เมษายนนี้ เท่านั้น

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทดลองขับและจองซื้อรถมิตซูบิชิทุกรุ่นภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน และรับรถภายใน 60 วัน จะได้สิทธิ์ในการลุ้นรับแพคเกจทัวร์กรุงเทพฯ – อาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน จำนวน 5 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง) มูลค่ารวม 900,000 บาท” ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

รถยนต์มิตซูบิชิ ทุกรุ่น มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ายังสามารถใช้คูปองเช็คระยะฟรีค่าแรงในการบำรุงรักษารถนานสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อนซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด ตอกย้ำถึงคุณภาพของรถยนต์มิตซูบิชิและการใส่ใจในการให้บริการลูกค้าซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด

สำหรับลูกค้าที่สนใจชมหรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ รวมไปถึงร่วมกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ ก็สามารถเยี่ยมชมได้ที่งานมอเตอร์โชว์ในงาน ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

รถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept ยนตกรรมขนาดเล็กจากอนาคต

BMW Group ยังไม่ได้เปิดราคารถยนต์ออกมา แต่ว่าได้เดินหน้าโครงการ Vision Next 100 Year เผยโฉม 2 ยนตกรรมต้นแบบรุ่นใหม่ล่าสุด ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์นวัตกรรมจากอนาคต โดยได้เผยโฉมทั้ง Rolls-Royce Vision Next 100 Concept กับรถที่จะนำเสนอในวันนี้คือรถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept รถยนต์ที่มอบความนุกและการแบ่งปันร่วมกัน

รถยนต์ Mini Vision Next 100 Concept มาพร้อมกับสโลแกนใหม่ “Every MINI is my MINI” ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการใช้งานรถที่แบ่งปันกัน (Car-Sharing) ในยุคอนาคตระหว่างลูกค้ากับผู้ใช้งาน มากกว่าที่จะเป็นการครอบครองเพียงคนเดียว นอกจากนี้ทั้งรูปลักษณ์และอ็อพชั่นสุดล้ำ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ที่รักความทันสมัย, การขับขี่รถยนต์ให้ขับขับสนุก และแสดงตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกรถยนต์ที่ได้ผสมผสานระหว่างการดีไซน์ตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mini และความทันสมัยที่สามารถแสดงผ่านกระจกด้านล่างที่มาพร้อมกับไฟหน้า 2 วง, การแสดงผลลายกราฟฟิคดิจิตอลแบบเคลื่อนไหวผ่านตัวถังรถและหลังคาที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ตามผู้ขับขี่, ไฟท้ายแถบยาวสไตล์สปอร์ต, ล้ออัลลอยที่เสริมหลอดไฟ, ประตูบานสไลด์ รวมไปถึงไฟส่องพื้นพร้อมข้อความและภาพเคลื่อนไหวทั้งด้านหน้ารถและพื้นด้านข้างประตู

เมื่อเปิดประตูก็จะพบกับภายในห้องโดยสารรถยนต์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกของการตกแต่งพวงมาลัยกับเบาะนั่งเรียบๆ ความกว้างขวางที่มากขึ้นเนื่องจากตัดชุดเกียร์และเพลากลางจนสามารถอออกแบบเบาะนั่งให้รองรับผู้โดยสารสูงสุด 6 คน และที่เก๋ยิ่งกว่าก็คือระบบย้ายตำแหน่งพวงมาลัยกับแป้นเหยียบเพื่อรองรับสภาพถนนแบบขับเลนขวากับขับเลนซ้ายได้เพื่อรองรับการขับขี่ข้ามประเทศด้วย

ทาง Mini ภูมิใจนำเสนอระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ “Cooperizer” ที่เปรียบเสมือนเป็นระบบควบคุมรถ, สิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง ประกอบไปด้วยแผงวงกลมทั้ง 4 แผ่นที่วางซ้อนกันซึ่งอ้างอิงจากระบบอินโฟเทนเมนต์อันเป็นเอกลักษณ์จากมินิ พร้อมแกนหมุนเพื่อปรับตำแหน่งของแผ่นวงกลมสำหรับการออกคำสั่งต่างๆ ซึ่งจะแสดงผลผ่านจอแสดงข้อมูลแถบยาวที่อยู่ด้านใน และปุ่มเดินระบบ Inspire Me

BMW Group ได้เผยโฉมทั้ง BMW Vision Next 100 Concept, Mini Vision Next 100 Concept, Rolls-Royce Vision Next 100 Concept  แล้ว ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่ BMW Motorrad ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะเผยโฉมในเร็วๆ นี้ ส่วนจะเป็นแบบใด มีนวัตกรรมอะไรเจ๋งๆ ก็รอชมกันได้เลย ว่าราคารถยนต์ใหม่นี้จะมีราคาอยู่เท่าใด

ตรวจสอบราคารถยนต์ใหม่ได้ที่ http://th-bigbike.com/category/%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%8c/

ค่ายรถยนต์ Mini ฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรด์เจเนอเรชั่นใหม่ในเครือของ BMW

ค่ายรถยนต์ Mini ฉลองครบรอบ 15 ปีของแบรด์เจเนอเรชั่นใหม่ในเครือของ BMW

แม้ว่า Mini จะเป็นค่ายรถยนต์จากอังกฤษที่มีอายุยืนยาวเกินครึ่งศตวรรษ แต่ได้รับการก้าเข้าสู่เจเนอเรชั่นใหม่มาตั้งแต่ 2001 ที่ผ่านมาหลังจากที่ BMW ได้เข้าครองครองแบรนด์มินิตั้งแต่ปี 1994 พร้อมยกระดับการทำตลาดรถไซส์เล็กที่เปี่ยมไปด้วยความพรีเมี่ยมและความล้ำสมัยยิ่งขึ้น

สำหรับรถยนต์ Mini Cooper ได้เผยโฉมครั้งแรกในวันที่ 26 เมษายน ปีค.ศ. 2001 ซึ่งมาในรูปแบบของรุ่น Hatch 3 ประตูตัวถังสีแดง Chili Red พร้อมกับการตกแต่งด้วยสีขาวทั้งหลังคา, ฝาครอบกระจกมองข้างและแถบบนฝากระโปรงตัวรถ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา รถยนต์ Mini รุ่นนี้ สามารถทำยอดขายเกิน 2.5 ล้านคัน ในมากกว่า 110 ประเทศทั่วโลก

และในเวลานี้ ทางค่ายรถยนต์ มินิก็ได้ประกาศเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปีเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรตินำ Mini Hatch ที่ได้กล่าวข้างต้นร่วมถ่ายรูปร่วมกับบุคลากรในโรงงานมินิที่ Oxford เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ของทีมผู้พัฒนาและผลิตยานยนต์ แบรนด์มินิเจเนอเรชั่นใหม่

“ความท้าทายครั้งใหญ่ของบริษัทเราคือการผลิตรถทั้ง 1,00 คัน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่ซ้ำใครในแต่ละวัน ทางผู้บริหารต้องขอขอบคุณพนักงานที่ร่วมกันรังสรรค์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมด้วยความรักและทักษะในการผลิต” Mr. Frank Bachmann ผู้จัดการโรงงานมินิใน Oxford กล่าวแสดงความยินดีในครั้งนี้

ทว่า เป้าหมายการยกระดับครั้งต่อไปของแบรนด์ BMW และ Mini นั่นคือการมอบความสะดวกสบายสำหรับการโดยสาร ด้วยการผลิตตัวรถที่ใหญ่ขึ้น อัดแน่นด้วยอ็อพชั่นและเทคโนโลยี และมีข่าวลือว่าอาจพัฒนาเป็นรูปแบบตัวถังคอมแพ็คซีดานอีกด้วย 

 BMW AG และ MINI เตรียมปรับปรุงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ MINI ให้จำหน่ายเฉพาะรุ่นหลัก พร้อมกับปรับโฉมโลโก้ใหม่ที่เน้นความเรียบง่ายเหมือนแบรนด์ดังๆ มากขึ้น เพื่อการดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ต้องการสัมผัสความรถยนต์อเนกประสงค์บนความเรียบง่าย

เริ่มจากการปรับโฉมของ Logo ใหม่ที่ได้นำปรัชญาการออกแบบภาพกราฟิกยุคใหม่ Flat Design ที่เน้นความเรียบง่ายในทุกรายละเอียด แม้แวบแรกจะดูไม่แตกต่างมากนัก แต่หากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าเส้นสายต่างๆ จะเรียวเล็กลง เน้นสีน้อยไม่เน้นแสงเงา ตัดเส้นด้านในของวงกลมออกและลดความโค้งของปลายปีก โดยโลโก้ใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่รถยนต์ Mini Clubman เจเนอเรชั่นใหม่เป็นต้นไป (จึงเป็นสาเหตุที่ Clubman ยังไม่เปิดจำหน่ายจริงในเวลานี้)

และอีกอย่างก็คือการปรับรุ่นรถยนต์ที่จะจำหน่ายจะเหลือเพียง 5 รุ่นเท่านั้นเพื่อให้ทุกรุ่นสามารถสร้างยอดขายและเอกลักษณ์เฉพาะได้เต็มที่ยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการยุติการผลิตและจำหน่าย Roadster และ Coupe ส่วนในอนาคตก็มีแผนจะยุติการผลิต Paceman เพิ่มด้วย นี่จึงเป็นข่าวล่าสุดของค่ายรถยนต์ MINI ซึ่งมีแผนที่จะปรับโครงสร้างครั้งใหม่ล่าสุดเพื่อใหตัวแบรนด์สามารถทำตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น

ดูรถยนต์ใหม่รุ่นอื่นๆได้ที่ http://th-bigbike.com/category/car-reviews/